วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Daily News Online หน้าวาไรตี้ หวานหอมเป็ดพะโล้รสเด็ด

จาก อัลบั้ม นสพ.เดลินิวส์

Daily News Online หน้าวาไรตี้ หวานหอมเป็ดพะโล้รสเด็ด

กรอบนุ่มสะตอผัดกุ้งตำรับจีน

เมื่อเดือนที่แล้วผม ได้ตามคุณพ่อไปถ่ายทำรายการโทรทัศน์ที่หออัครศิลปิน เวลาคุณพ่อเดินทางไปถ่ายทำรายการ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เรื่องอาหารการกิน ทางทีมของคุณพ่อจึงต้องหาอะไรอร่อย ๆ เพื่อให้คุณพ่อแวะไปกินก่อนที่จะไปถ่ายทำรายการทุกครั้ง ซึ่งตรงข้ามกับผม ผมจะถ่ายทำรายการตั้งแต่เช้า แล้วพอพักเที่ยงทางทีมงานจึงจะพาผมไปทานอะไร ๆ ที่อร่อย และพอทานเสร็จ ถ่ายรูปเรียบร้อย ก็จะไปถ่ายทำรายการกันต่อ

คุณพ่อของผมอายุมากแล้ว ตอนนี้ก็ถ่ายทำรายการ ได้วันละตอนเท่านั้น จึงมีเวลาไปรับประทานอาหาร พักผ่อนหย่อนใจได้สบาย ไม่ต้องเร่งรีบ ฉะนั้นพวกเราจึงต้องหาอะไรอร่อย ๆ ให้คุณพ่อทาน ซึ่งในครั้งนี้เราไปกันที่คลองสอง ไปดูหออัครศิลปินเพื่อไปถ่ายทำนำมาเผยแพร่ว่า ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและให้ความรู้ด้วย เนื่องจากคุณพ่อของผมก็เป็น บุคคลหนึ่งที่อยู่ในหออัคร ศิลปินแห่งนี้ด้วย เพราะว่าเป็น ศิลปินแห่งชาติครับ

ก่อนที่จะไปถึงที่หออัครศิลปิน ทีมงานได้แวะไปหาอะไรทานกัน ซึ่งเป็นร้านที่ผมยังไม่เคยไปทานมาก่อนเลย แต่ว่าทางคุณพ่อของผมเคยไปทานมาแล้ว คุณพ่อไปทานอาหารมาหมดทุกแห่งเลยครับ ผมเลยอาศัยคุณพ่อจะได้ทานอาหารอร่อย ๆ วันนั้นเราไปกันที่ ร้านอำไพโภชนา ร้านนี้เป็นร้าน 2 คูหา ติดริมถนนเลยครับ ซึ่งเป็นร้านอาหารจีนผสมไทย แต่ว่าอาหารส่วนมากแล้วจะเป็นอาหารจีนครับ

ที่ร้านมีห้องจัดเลี้ยง อยู่ด้านบนด้วยนะครับ บันไดขึ้นด้านบนค่อนข้างชันพอสมควร แต่คุณพ่อของผม ก็ยังเดินขึ้นได้ วันนั้นเราไปกันเกือบ 20 คนครับ ทางทีมงานได้บอกทางร้านไว้ล่วงหน้าแล้ว พอเรามาถึงนั่งกันเรียบร้อยแล้วอาหารออกมาทันทีเลยครับ ผมเลยพลอยได้กินอาหารอร่อย ๆ

สิ่งแรกที่เขาเอามาให้กินเล่นกันก่อน คือ ซี่โครงหมูทอดกระเทียม ซึ่งเขาใช้ซี่โครงอ่อนเอาไปสับแล้วหมัก ถึงจะเอามาทอด ซึ่งเขาหมักได้ดีมากครับ เนื้อนุ่ม แต่ว่าต้องใช้มือหยิบทานนะครับ แทะเนื้อที่ติดอยู่ตามกระดูก ไปด้วยถึงจะอร่อย

หลังจากนั้นมี ขาหมูพะโล้ กลิ่นหอมโชยมาเชียว ครับ รสชาติดีมาก นุ่มนวล ไม่เข้มข้นจนเกินไป ถ้าจะกินต้องตัดเป็นชิ้น ๆ ไป ผมชอบกินตรงที่เป็นหนัง ใส่น้ำจิ้มให้มีรสเปรี้ยว ๆ เพื่อตัดความเลี่ยนออกเล็กน้อย อร่อยมากครับ หันไปมองที่โต๊ะอีกที ตกใจเลยครับ เพราะว่ามีอาหารไทยเสิร์ฟตามมาทันที มี แกงป่าไก่ ซึ่งต้องเรียนตามตรงว่าที่ร้านนี้ทำแกงป่าไก่ได้เข้มข้น หอมน่ากินมาก อาหารจานนี้ผมกินเรียบเลยครับ

หันไปอีกที สะตอผัดกุ้ง มาพอดี เขาผัดได้ดีครับ ไม่ได้ผัดแบบปักษ์ใต้นะครับแต่ผัดแบบจีน โดยทำให้ข้นอาจจะใส่แป้งหรืออะไรก็ ไม่ทราบนะครับ แต่ว่าผัดได้อร่อยครับ ผัดกุ้งได้ไม่สุก จนเกินไป ยังกรอบและนุ่มอยู่ หลังจากนั้นยังมี ต้มแซบซี่โครงแก้ว เป็นน้ำใส ๆ แต่ว่าเผ็ด เปรี้ยว ครับ รสชาติอร่อยดี

ยังมี หมั่นโถวนึ่ง และ หมั่นโถวทอด เอามาให้กินกับ ขาหมูพะโล้ด้วย ตามมาด้วย เป็ดพะโล้ เนื้อไม่แห้งและไม่เค็มจนเกินไป หวานกำลังดี รสชาติกลมกล่อมครับ ผมเลยทำเป็นแซนด์วิชกิน ใส่ ไส้ด้วยขาหมูพะโล้ลงไปใน หมั่นโถว แล้วเอาหนังใส่เข้า ไปด้วยแล้วราดน้ำจิ้ม จากนั้น เอาหมั่นโถวไปจุ่มในน้ำพะโล้ ครับ อร่อยมาก เป็นอาหาร จีนแบบโบราณที่ผมชอบ มากครับ

สำหรับ กุยช่ายขาวผัดกับเต้าหู้หมูสับ จานนี้ ดูเป็นอาหารที่ธรรมดาแต่ อร่อยครับ วันนั้นคุณพ่อทาน อาหารไม่ได้มาก แต่พอยื่น กระยาสารทกับกล้วยไข่ให้ ทานกลับทานหมดเลยครับผมเองก็ชอบกินกระยาสารท นะครับ ส่วนกล้วยไข่ก็หอมอร่อยครับ

ถึงแม้จะร้อน แต่ก็มีความสะดวกสบายดีครับ ส่วนห้องน้ำอยู่ข้างล่าง แต่ไม่เป็นไรครับ อาหารร้านนี้อร่อย จริง ๆ รู้สึกว่าตอนกลางคืนถึงจะเปิดอย่างเป็นทางการเพราะตอนกลางวันอากาศจะร้อน เพราะฉะนั้น ถ้าเพื่อน ๆ จะแวะมาชิมอาหารกัน ผมแนะนำให้มาช่วงเย็น ๆ อากาศจะเย็นสบายกว่า ขาหมูตุ๋นยาจีน ซี่โครงหมูทอดของเขาอร่อยครับ

ผมชอบแกงป่าของ เขามากครับ ลองแวะไปลองชิมกันดูนะครับ อยู่ไม่ไกล แวะไปชมหออัครศิลปิน ด้วย เพราะว่าเป็นแหล่งที่ได้ความรู้ แล้วเราจะได้ภูมิใจในบรรพบุรุษของเรา ซึ่งเก่งกล้าสามารถเหลือเกิน ฝากไว้ด้วยนะครับ.

น้ำพริกสละกระชายอ่อน

เครื่องปรุง

- พริกขี้หนู 10 เม็ด
- กระเทียม 3 กลีบ
- กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อสละซอยบาง 50 กรัม
- น้ำต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวสวย 1 ถ้วยตวง
- กระชายอ่อนซอยละเอียด 50 กรัม
- กุ้งแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.โขลกพริกขี้หนู กระเทียม กะปิ พอละเอียด

2.ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และเนื้อสละซอยบาง น้ำต้มสุก คนให้เข้ากัน

3.ชิมรสให้ได้สามรสคือ เปรี้ยว เค็ม หวาน

4.ในชามผสม ตักข้าวสวยใส่ชามผสม ตักน้ำพริกราดลงไป แล้วใส่ต้นกระชายอ่อนซอยละเอียดลงไปคลุกให้เข้ากัน
5.ตักข้าวคลุกน้ำพริกสละกระชายอ่อนใส่จาน โรยหน้าด้วยกุ้งแห้งป่น เสิร์ฟทันที.

หมึกแดง
www.mcdangguide.com

ชวนให้ลองรสชาติหวานเข้มแบบ "ฮาร์ท-คอร์"

by Nittiya on 2010-08-31 - 04:00 pm
ข้อมูลโดย ตุลยย์
ที่มาข้อมูล: มติชนออนไลน์
วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:50:54 น.

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
Hamburge Steak

ชวนให้ลองรสชาติหวานเข้มแบบ "ฮาร์ท-คอร์"

ขึ้นชื่อว่าซอยแจ้งวัฒนะ 14 ข้างๆ บิ๊กซีแจ้งวัฒนะ ก็เป็นหนึ่งในบรรดาย่านของอร่อย มีร้านอาหารมากมายหลากหลายให้เลือกซื้อ แต่ร้านที่จะนำเสนอในวันนี้ พิเศษตรงที่ไม่น่าเชื่อว่าร้าน "แบบนี้" จะมาตั้งอยู่ชานเมือง

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
BBQ Pork Ribs

HEART-CORE BAKER ชื่อร้านเลียนเสียงคำว่า "Hardcore" มีที่มาจากสไตล์การตกแต่งเค้ก ที่ประดับน้อย แต่งหน้าเค้กให้แรงๆ เป็นจุดเด่นทางร้าน เน้นเนื้อเค้กที่มีหลายสัมผัสขณะเคี้ยวอยู่ในปาก นอกจากนี้ ยังแฝงถึงความเหน็ดเหนื่อยของพี่น้องที่ร่วมกันลงทุนลงแรงสร้างกันขึ้นมา ในช่วงแรกทำเค้กขายกันแค่ในห้างพารากอน ต่อมาก็ขยับขยายมาขายที่เจเจ มอลล์ (สาขานี้ปัจจุบันปิดแล้ว) จนตัดสินใจมาเปิดร้านเต็มรูปแบบ ทั้งขายอาหารและขนม ซึ่งกุ๊กก็คือเจ้าของร้านเองที่เคยเรียนทำขนมและอาหารจากโรงแรมชื่อดัง ก่อนไปเรียนทำเบเกอรี่ที่สหรัฐอเมริกา การตกแต่งร้านดูหรู เลือกเฟอร์นิเจอร์ดูสบายตาในสีขาวดำ คลุมโทนด้วยการทาผนังสีควันบุหรี่ เก้าอี้ก็ให้ความรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้าน

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
เส้นสปาเก็ตตี้ราดแพนงหมู

คุณมนัชญา กุลพงษ์วดี เจ้าของร้าน บอกว่า ทั้งแป้งและของในร้านส่วนใหญ่ทำเองหมด ตอนแรกเริ่มจากขายแค่เค้กก่อน ร้านเราเนื้อเค้กจะมีเอกลักษณ์ ทำให้ร่วนนิดๆ เน้นรสสัมผัสและความสดใหม่ ทำให้ลูกค้าทานแล้วเหมือนเพิ่งเสร็จออกจากเตา ส่วนเรื่องอาหารเลือกจานที่ครอบครัวชอบทานกัน "ถ้าเราทานกันเองแล้วไม่อร่อย ไปขายแล้วใครจะซื้อ"

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
ช็อคโกแลตลาวา

มาเริ่มจานแรกกันที่ BBQ Pork Ribs ซี่โครงหมูบาร์บีคิว เน้นรสชาติซอสพิเศษใช้เหล้าเบอร์เบิ้นทำให้หอมยิ่งขึ้น ซี่โครงที่ใช้ติดกระดูกอ่อน ผ่านทั้งกระบวนการหมัก อบ และย่าง จนออกมาได้รสชาติกลมกล่อมแบบบาร์บีคิว เนื้อซี่โครงร่วนๆ ทานง่าย คู่กับมันบดหอมเนย ทางร้านบอกว่าไม่อยากให้ลูกค้าทานของทอดมาก จึงไม่เสิร์ฟคู่เฟรนช์ฟรายด์ มาพร้อมซีซาร์สลัด

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

ถ้าอยากทานเต็มปากเต็มคำ Hamburge Steak แฮมเบิร์กราดซอสเนื้อกระเทียมเป็นทางเลือกที่ดี แต่เราไม่ทานเนื้อจึงขอเป็นหมู ร้านนี้ทำหมูได้นุ่มมาก ใช้เนื้อหมูบดมาทอด ทานคู่มันบดและสลัด น้ำเกรวี่รสชาติหอมหวานข้นด้วยเนยไม่ใช่แป้ง แต่ถ้าเลือกต้นตำรับของร้านจะเป็นเนื้อวัว 2 ส่วนผสมเนื้อหมู 1 ส่วน เพื่อกลบกลิ่นคาว เมื่อผสมกับหอมทอด เห็ดผัด และชีส ที่ราดบนเสต็กต่างชูรสให้อร่อยยิ่งขึ้น ได้รสชาติทั้งนุ่มเหนียวกรอบในจานเดียว

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

เครื่องดื่มแนะนำน้ำมะนาว น่าสนใจตรงกรรมวิธีที่ขูดผิวมะนาวบางๆ มาหมักกับน้ำตาลและเกลือ เพื่อดูดความหอมและน้ำมัน ทิ้งไว้สักพักจึงนำมาเสิร์ฟ รสชาติและกลิ่นหอมอย่าบอกใคร!! หากอยากลิ้มรสขมของกาแฟที่นี่ก็มีบริการด้วยเมล็ดของดอยช้าง คนชอบหวานขอให้ลอง White Chocolate Mocca เน้นความเข้มข้น ใช้วิปครีมกับไวท์ช็อคโกแลต หากพาเด็กมาทานด้วย babicino เหมาะมาก นมร้อนใส่มาชเมลโลที่ร้านทำเอง เพิ่มวิปครีมโรยด้วยผงโกโก้ ลองแล้วหอมนุ่มมาก

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

จากนั้นลิ้มลองเส้นสปาเก็ตตี้ราดแพนงหมู ใช้สันคอหมูจะได้ติดมันนิดๆ เพิ่มรสชาติ แต่ปกติที่ยอดฮิตจะเป็นเนื้อ (เลือกเนื้อส่วนน่องตุ๋นข้ามคืนให้เปื่อย) เคี่ยวน้ำแกงจนเข้าเนื้อเข้มข้น ประยุกตร์สำหรับคนรักเส้น หวานมัน เคี้ยวหมูนุ่มๆ หอมใบมะกรูด ตบท้ายด้วย"ช็อคโกแลตลาวา" เมนูของหวานใหม่ล่าสุด ขณะตัดเค้กออกจะเห็นช็อคโกแลตร้อนๆ ไหลเยิ้มออกมา เหมือนมองเห็นลาวา สูตรที่ร้านเป็นแบบแป้งน้อยไม่เน้นเนื้อเค้ก แต่เน้นช็อคโกแลตเบลเยี่ยมข้นๆ เยอะๆ

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

นอกจากนี้ ขอแนะนำสลัดผักย่าง ต้องรอ 15 นาที เพราะไม่ผ่านกระบวนการอื่นนอกจากย่างจนสุกบนกระทะร้อนๆ มีผักหลายชนิด อาทิ ซูกินี แครอท มะเขือเทศ เสิร์ฟกับน้ำส้มบัลซามิก สามารถสั่งน้ำสลัดเพิ่มได้ทั้งซีซาร์และอิตาเลี่ยน หรืออยากลิ้มลองอกเป็ดราดซอสส้มก็โทร.มาสั่งล่วงหน้า 2 วันเพื่อเตรียมวัตถุดิบ

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

ร้าน HEART-CORE BAKER เปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม เข้าซอยข้างบิ๊กซีประมาณ 800 เมตร ร้านอยู่ขวามือสังเกตง่ายจะเห็นป้ายครัวขุนตาลใหญ่ๆ สามารถเลือกชิมได้ถึง 22 เมนู มีเค้กกว่า 10 ชนิด ตามเทศกาลก็มีขนมใหม่ๆ มานำเสนอ โทร.สอบถามได้ที่ 02-9827875 หรือ 081-3416341

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

ราชาบะหมี่หรือจะสู้ เทพแห่งบะหมี่ "รุ่งเรือง นางเลิ้ง"

by Nattiya
ข้อมูลโดย: ธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส )
ที่มาข้อมูล: ไทยรัฐออนไลน์



ราชาบะหมี่หรือจะสู้ เทพแห่งบะหมี่ "รุ่งเรือง นางเลิ้ง"

มาแล้วครับ... อาทิตย์นี้ผ่านการเลือกตั้ง สก. สข. คงเป็นไปตามคาดว่าคนกรุงเทพมาใช้สิทธิ์ต่ำตามเคย รู้สึกว่าเวลาในการเรียกร้องสิทธิ์ทางการเมือง ทำไมมีแต่ชาวบ้านที่เข้าใจในเรื่องประชาธิปไตย แต่ทำไมคนเมืองอย่างพวกเราไม่ใส่ใจที่จะไปดูไปแล เรื่องนี้บ้างซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวเสียจริง เอาเป็นว่าพวกเราคงต้องช่วยกันประคับประคองให้เมืองไทยไปข้างหน้า ดังความหวังของพ่อหลวง อยากเห็นคนไทยรักกัน...

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

มากินกันเลย ผมได้มีโอกาสกลับไปหาของกินแถวตลาดนางเลิ้งอีกครั้ง ซึ่งความตั้งใจอยากจะกินหมี่ที่ได้ชื่อว่า "เทพของบะหมี่" มีคำกล่าวไว้ว่า "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง ข้าวมันไก่ไหหลำ บะหมี่ฮกเกี้ยน" จะกินหมี่ให้อร่อยจะต้องเป็นของชาวจีนฮกเกี้ยน ร้านนี้เขาตีหมี่เอง อย่าไปนึกถึงพวกที่ยืดเส้นโชว์น่ะครับ อันนั้นเป็นหมี่สดและจะต้องกินเลยเมื่อทำเสร็จ ไม่ใช้สูตรของฮกเกี้ยน ชาวฮกเกี้ยนจะใช้วิธีการนวดโดยนั่งบนไม้ไผ่แล้วหาความรู้สึกของความหนืดระหว่างแป้งกับไข่ว่าได้ที่แล้วหรือยัง ที่มีดีกว่านี้คือเครื่องเคราครบ ไม่ว่า ปู เป็ดย่าง หมูแดง ที่มากกว่านั้นอีกหมูแผ่น ที่นำหมูสับต้มเป็นแผ่นอร่อยมาก..

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

มาดูกันเลยดีกว่า ผมบอกแล้วมาถึงที่ ร้านบะหมี่รุ่งเรือง ร้านนี้มีพี่วิเชียรเป็นเจ้าของกิจการรุ่นที่สองแล้วครับในเมืองไทย นับไปนับมาร้านนี้จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 50 ปี เป็นแน่ๆ เราเริ่มสั่งกันดีกกว่า ผมสั่งเต็มข้อของที่ร้าน บะหมี่แห้งหมูแดง ปี หมูสับแผ่น ตัวบะหมี่มีกรรมวิธีนวด แล้วยังมีกรรมวิธีลวกอีก เพื่อที่จะให้บะหมี่ได้ที่ รับรองรสชาติว่า จะหาหมี่อร่อยแบบนี้ได้ยากมากครับ ที่สำคัญบะหมี่ร้านนี้สามารถไปทำอี่หมี่ได้ไม่เละครับ (จะหาร้านที่ทำเป็นก็เห็นมีแต่ร้าน เลี่ยว เลียง เซ่ง กับ อาเลกราชวงศ์ เท่านั้น) ที่เหลือไม่เข้าเหลี่ยม มาจากที่สอง บะหมี่แห้งเป็ด (บะหมี่ไม่บรรยายแล้ว) มาที่เนื้อเป็ดได้นุ่มนวล ตัวหนังเป็ดกรอบได้ใจเลยครับ ที่สำคัญน้ำราดที่ลงตัวมากๆ เมื่อมาบวกกับบะหมี่แล้ว จัดมาเลย ไม่ต้องถามกันเลยครับ สำหรับใครที่ต้องการกินน้ำซุปขอได้เลยครับ น้ำซุปเข้าเหลี่ยมมากเลยครับ

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

ไปมาสะดวกมากครับ ไปตลาดนางเลิ้งให้ได้ก่อนแล้วกันครับคุณพี่ คุณน้อง ไปถึงไปกลางตลาด ร้านจะอยู่ในตลาดครับแต่ออกมาทางสนามม้าหน่อย (ไม่ใช่ตลาดสดที่เขาขายของสดอยู่น่ะ) จะเป็นร้านค้าหลายห้องอยู่ครับ ที่ร้านของกินเยอะนอกจากบะหมี่ครับ ทั้งข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมู ลูกชิ้นปิ้ง ปอเปี้ยสด ที่เหลือจำไม่ได้แล้วครับเยอะจริงๆ ไปไม่ถูกโทรไปเลยครับ โทร 02 281 9755 , 02 281 0862

Rating : ที่สุดแผ่นดิน (5 ดาว)

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ผัดไทย : ผัดไทยประตูผี ที่สุดของที่สุด

by FOOD&HEALTH2010 on 2010-08-28 - 03.07 pm
ข้อมูลเรื่องและภาพโดย: ธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)
Facebook : baypalace
Twitter : baypalace
ผัดไทยประตูผี ที่สุดของที่สุด

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

เมื่อบอลจบหลายสิ่ง หลายอย่างก็จบตามไปด้วย เหมือนแต่ละประเทศได้ทำสงครามกัน สิ่งนี้คงเป็นทางออกของสันดานมนุษย์ที่ชอบ แก่งแย่งความเป็นใหญ่ ชอบที่จะได้รับความนับถือจากผู้อื่น ครั้งนี้การนับถือคงตกไปอยู่กับสเปน ถึงแม้ว่าผู้แพ้จะผิดหวังแต่กลับได้รับการสนับสนุนจากคนในประเทศของตนอย่าง ยิ่งใหญ่ คงเป็นอีกคราวหนึ่งที่ประเทศไทยจะกลับมาพูดว่า "เราจะไปบอลโลกในอีก 4 ข้างหน้า" เห็นทีคงลำบากแสนเข็นหากสมาคมฟุตบอลยังไม่สามารถทำให้เกิดเอกภาพ ยังไร้ทิศทางในการวางแผนระยะไกล เนื่องจากแต่ละท่านจะอยู่ในอำนาจเพียง 2 ปี มันสั้นเหลือเกิน สิ่งที่ท่านเหล่านั้นทำได้เพียง ทำอะไรก็ได้ให้เกิดประโยชน์แก่ตน หลายท่านรักฟุตบอลจริงหรือเปล่าหรือเป็นเพียงทางผ่านเพื่อสร้างชื่อเสียง ก่อนเข้าวงการเมือง คิดแล้วเศร้า "บอลไทย"

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์
ครั้งแรกมาหน้าตาแบบนี้ ห่อไข่ ฟังแล้วต้องลอง

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์
แกะให้ดูกันจะจะ ว่ามีกุ้งตัวโตๆด้วย

มาครั้งนี้อยากพาไปกินอาหารประจำชาติเสียหน่อย "ผัดไทย" หลายคนคงนึกถึงที่ "ประตูผี" เด็กสมัยนี้คงได้ยินเพียงชื่อ ผมก็เช่นกัน (ไม่ใช่เด็กแล้วแต่เกิดไม่ทัน) พ่อเล่าว่า ที่วัดนี้จะเป็นแดนประหารนักโทษ เวลาเขาประหารเสร็จก็จะเอาศพออกมาทางประตูนี้ ผมไปหลายครั้งแต่ไม่รู้ว่าเขาออกกันประตูไหน ยังงงๆ อยู่ครับคราวหน้าไป จะหาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง

ร้านผัดไทย ในละแวกนั้นมีด้วยกันสองร้าน ร้านแรกเขาอยู่ติดกับปั๊มน้ำมัน (ตอนนี้เป็นศูนย์อาหารไปแล้ว 555) อีกร้านจะอยู่ถัดไปอีกประมาณ 3 ห้อง ต่างบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของสูตร เอาเป็นว่าใครชอบร้านไหนกินได้ทั้งสองร้านนะครับ แต่ที่ผมชอบมากกว่าต้องเป็นร้านแรกที่ติดปั๊ม รสมือดีมากครับไม่หวานเกินไป ทำให้คนกินมีโอกาสได้แต่งเติมส่ิงที่ตัวชอบได้บ้าง ร้านนี้ชื่อ "ผัดไทยลุงภา" ได้เห็นภาพตอนลุงแกหนุ่มๆ แล้วแข็งแรงมาก ชื่อแกจริงจริงคือ ประภา สร้อยสำโรง มาชิมกันเลยดีกว่าครับ

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์
จานมาตรฐานของร้าน อยากกินแบบเดิมๆ ต้องจานนี้

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์
เต็มๆตาอีกครั้ง

มากินร้านนี้คงต้องสั่งผัดไทยจานเด็ดของที่ร้านคือ ผัดไทยเส้นจันท์ห่อไข่ จานนี้เป็นจานที่ผมชอบเป็นพิเศษ นอกจากห่อไข่ (ร้านไหนก็ทำ แต่ร้านนี้จะห่อไข่บางๆ ไม่ใช่ห่อเป็นไข่เจียวยัดใส่) แถมด้วยกุ้งขาว ตัวโตๆ มากินด้วย แต่จานนี้เขาจะเอาผักกุ๋ยช่าย เต้่าหู้ และไชโป้ว จากนั้นก็ผัดกับเส้นและกุ้งตามด้วยเครื่องปรุงรสเท่านั้น ก็ครบรสความอร่อยแล้ว ส่วนอื่นๆให้มาเติมเอาที่หลังอย่างถั่วบด มะนาว น้ำปลา ตามชอบครับ ได้กินที่ไรยากที่จะลืม อยากกินที่ร้านมาตั้งแต่เขาประท้วงกัน แต่ใจไม่ถึง (ใจน่ะร้อย ปอดเสียเก้าสิบเก้านอนอยู่บ้านดีกว่าครับ ฮิฮิ)

มาอีกจาน จานเดียวไม่พอยาไส้จานนี้ ของออริจินัลหน่อย เดิมๆ จัดมา แต่ขอเป็นเส้นจันท์เท่านั้น เขาผัดได้พอดิบพอดี ใส่ทุกอย่างที่ผัดไทยควรจะมี ไม่มีเนื้อสัตว์ เหมือนกินเจ แต่มีกลิ่นแรงจากกุ๋ยช่ายเท่านั้น งั้นเจแหงๆ อร่อยมาก ไม่ต้องหาที่อื่นมาเทียบ สำหรับความดั้งเดิมของรสผัดไทยที่ไหนแน่ผมว่า สู้ที่นี่ไม่ได้ครับ

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์
ผัดอย่างเอาจริงเอาจัง

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์
ป้ายนี้รับรองความอร่อย

ไปมากันอย่างไร มาจากราชดำเนินมุ่งหน้าไปทางสะพานทางซ้ายเป็นป้อมมหากาฬ ให้เลี้ยวซ้ายมาตามถนนเห็นปั๊นน้ำมันเลี้ยวเข้าไปจอดได้เลยครับ 20 บาทปลอดภัยดี จากนั้นเดินออกมาให้เลี้ยวซ้ายติดปั๊นนั้นแหละครับ ร้านลุงภา ไปไม่่ถูกก็โทรเอา 02-621-0082 เปิด 10.00 - 22.00 น. ไม่รู้ว่าจะรวยไปไหนเนี้ย ไม่พักไม่ผ่อนกันบ้างเลย ฮุฮุ

Rating : ที่สุดในแผ่นดิน( 5 ดาว)

ที่มาข้อมูล: ไทยรัฐออนไลน์ 19 กรกฎาคม 2553, 09:30 น.
http://www.thairath.co.th/content/life/105528

ผลไม้สุขภาพ : กล้วยหอมเป็นยา รักษาโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังคนชาติกำลังพัฒนา

by FOOD&HEALTH on 2010-08-28 - 02.44 pn
กล้วยหอมเป็นยา รักษาโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังคนชาติกำลังพัฒนา
ข้อมูลโดย : ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 28 สิงหาคม 2553, 10:00 น.

จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์

มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลอันมีชื่อเสียงของอังกฤษ พบว่าสารสกัดของบรอคโคลีและกล้วยหอม จะช่วยรักษาโรคกระเพาะต่างๆได้

จาก การศึกษาในห้องปฏิบัติการทดลองพบว่ากากใยจากผัก จะช่วยเหลือในการป้องกันของร่างกายตามธรรมชาติ ต่อสู้กับการอักเสบของกระเพาะ นักวิจัยกำลังรอดูผลว่า จะใช้มันเป็นอาหารที่เป็นยากับผู้เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังได้หรือไม่ โรคนี้จะทำให้ท้องร่วงและปวดท้อง ซึ่งปัจจุบันเชื่อกันว่ามันเกิดจากปัจจัยในสิ่งแวดล้อมและพันธุกรรมคละกัน มีผู้ป่วยอยู่ ทั่วไปในชาติที่กำลังพัฒนา

นักวิทยาศาสตร์กำลังมุ่ง ศึกษา เพื่อดูว่า อาหารที่มีกากมาก กินเพื่อช่วยในการขับถ่าย อย่างพวกผัก จะช่วยให้เซลล์ในลำไส้ขับไล่ แบคทีเรียที่เป็นอันตรายออกมาอย่างไร และได้พบว่ากากใยจากต้นกล้วยขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง กับบรอคโคลี อาจจะมีประโยชน์ หากแต่สารกันบูดซึ่งผสมอยู่ในอาหารแปรรูป อาจจะแปลงให้เกิดผลตรงกันข้าม

ดร.บาร์ รี แคมเบลล์ กล่าวว่า การวิจัยแสดงว่าส่วนประกอบต่างๆของอาหาร อาจจะมีผลกับการเคลื่อนที่ของแบคทีเรียผ่านกระเพาะอย่างแรง "งานของเราส่อว่า อาจจะเป็นสิ่งจำเป็นของคนไข้โรคนี้ ที่จะต้องเลือกกินแต่ อาหารที่มีประโยชน์ และจำกัดอาหารแปรรูปให้น้อยลง".

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สุขภาพลดน้ำหนัก: หลักลดน้ำหนักหนีโรคอ้วน

by Nittiya on 2010-08-27 - 10.52 pm
ข้อมูลโดย : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ , Updated: 27/01/2010

จาก อัลบั้ม นสพ.เดลินิวส์

หลักลดน้ำหนักหนีโรคอ้วน

หากตรวจเช็คไขมันส่วนเกินจนรู้ว่าอ้วนขนาดไหน สิ่งที่คุณควรทำต่อไปคือการกำจัดไขมันส่วนเกินเหล่านั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

หลักลดน้ำหนักหนีโรคอ้วน
โดยปฏิบัติตามหลักการ คือ ลดน้ำหนัก โดยทั่วไปควรลดให้ได้ร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว แต่อย่าหักโหม ควรลดในอัตราครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์ ควบคู่กับการออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที อย่างต่ำ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ หากทำได้ภายใน 6 เดือน น้ำหนักของคุณก็จะหายไปร้อยละ 10 ตามเป้าหมาย

การ รักษาน้ำหนักให้อยู่คงที่ โดยการควบคุมอาหารการกิน หมั่นออกกำลังกาย เปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่อาศัยสิ่งอำนวยความสะดวกมากเกินไป เพื่อควบคุมไม่ให้น้ำหนักขึ้นมากกว่า 3 กิโลกรัม ในขณะที่เส้นรอบเอวจะต้องลดลงจากเดิม 4 เซนติเมตร จึงจะถือว่าสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ได้ดี ที่สำคัญต้องคำนึงถึง การป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่ม อยู่สม่ำเสมอ โดยเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือให้พลังงานมากเกินความจำเป็น

นอก จากนี้บรรดาคนอ้วนทั้งหลายควรพึงรู้ไว้ว่า การลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็วก็จะทำให้น้ำหนักขึ้นได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นค่อยเป็นค่อยไป และไม่ควรพึ่งการใช้ยาลดน้ำหนักที่ไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแล.

takecareDD@gmail.com

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

น้ำผักและผลไม้ : แตงโมเหลือง แก้วนี้ดื่ม ‘แก้หวัด’

ิัby Nittiya on 2010-08-27 - 1.045 pm
ข้อมูลโดย : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ , Updated: 09/07/2010

จาก อัลบั้ม นสพ.เดลินิวส์

แก้วนี้ดื่ม ‘แก้หวัด’
เนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลงเข้าสาช่วงหน้าฝน วันนี้จึงเตรียมเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณแก้โรคหวัด บรรเทาอาการฮัดเช้ย....

แก้วนี้ดื่ม ‘แก้หวัด’

คอลัมน์ใส่ใจสุขภาพกับอาหารการกิน อย่าง กินดี แลเห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่กำลังป่วยด้วยโรคหวัด

เครื่อง ดื่มสูตรนี้ ประกอบไปด้วย แตงโมเหลือง อุดมด้วยเบตาแคโรทีน ช่วยชะล้างของเสียในไต ลดความดันโลหิต ต่อมาเป็น องุ่นเขียว เปี่ยมด้วยฟอสฟอรัส กำมะถัน แคลเซียม เหล็ก วิตามินบี1 บี2 และวิตามินซี กรดไฟโคเคมิคอลเอลลาจิก และกรดทาร์ทาริก กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญอาหาร ช่วยล้างพิษ และขับปัสสาวะ

พระเอกของสูตรนี้ คือ กีวี มีแมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม และเบตาแคโรทีน ที่รวมพลังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย และควรรับประทานในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง

ส่วนผสมของเครื่องดื่มแก้หวัด ประกอบด้วย...

แตงโมเหลือง 2 ถ้วย
องุ่นเขียว 1 ถ้วย
กีวี 1 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

ขั้น ตอนในการทำ เริ่มจากนำกีวีไปปอกเปลือกออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นแว่น ๆ ส่วนแตงโมเหลืองหั่นเป็นชิ้น ๆ พอประมาณโดยไม่ต้องทิ้งเมล็ด และองุ่นเขียวผ่าครึ่งใช้ทั้งเมล็ด จากนั้นนำผลไม้ทั้งสามชนิดไปปั่นรวมกันด้วยเครื่องปั่น สกัดเอาแต่น้ำ เมื่อได้แล้วเทใส่แก้วเติมน้ำแข็งเพื่อความเย็นสดชื่นได้ หากไม่มีอาการระคายคอหรือไอร่วมด้วย.

takecareDD@gmail.com

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

น้ำผักผลไม้: แอปเปิ้ล ดริ๊ง! ลดไขมันในเลือด

by Nittiya on 2010-08-27 - 10.41 pm
ข้อมูลโดย : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ , Updated: 09/07/2010

จาก อัลบั้ม นสพ.เดลินิวส์

ดริ๊ง! ลดไขมันในเลือด
ตัวอย่างสรรพคุณของส่วนผสมคือ แอปเปิล มีประโยชน์ต่อหัวใจ เพราะสารเพกตินและวิตามินซีจะช่วยให้ระดับโคเลสเตอรอลอยู่ในระดับคงที่ 'สารเพกติน' ช่วยปกป้องจากมลภาวะต่าง ๆ ช่วยขับสารตะกั่วและโลหะอื่น ๆ ที่ร่างกายไม่ต้องการออกไป

ยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุดคือ การออกกำลังกาย ที่ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ แต่อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือ อาหาร การกิน ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา มุมสุขภาพ นำเสนอเรื่องราวของโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวกับ ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ หลังรู้สาเหตุและวิธีป้องกันไปแล้ว มาอิ่มอร่อยส่งท้ายสัปดาห์กับเมนูสุขภาพ เครื่องดื่มลดไขมันในเลือด สูตรจากหนังสือ 80 สูตรน้ำผัก-ผลไม้ เพื่อการล้างพิษและฟื้นฟูสุขภาพ โดย ภาณุพงศ์ คำวชิรพิทักษ์

'กรดมาลิกและกรดทาทาริก' ช่วยระบบหายใจและยังช่วยขจัดโปรตีนและไขมันส่วนเกินในร่างกาย แครอต มีเบต้าแคโรทีนจำนวนมาก ช่วยในการมองเห็นและป้องกันโรคไขข้อและเส้นเลือดตีบตัน พริกหยวก มีสารให้ความเผ็ดที่เรียกว่า 'แคปไซซิน' มีคุณสมบัติช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง โดยความเผ็ดของพริกจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต ขับเหงื่อ และกระตุ้นระบบเมตาบอลิสซึ่มหรือระบบเผาผลาญอาหารให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ไขมันไม่จับตัวอยู่ในร่างกาย

ส่วนผสม
แครอต 1 ถ้วย
แอปเปิลเขียว ? ถ้วย
มะเขือเทศ ? ถ้วย
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
มะนาว 1 ผล
พริกหยวก ? ถ้วย
พริกไทย ? ถ้วย
น้ำแร่ 1 ถ้วย

วิธีทำ ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด นำมะนาวมาคั้น หั่นมะเขือเทศ แครอต และแอปเปิลเขียวเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ควักไส้พริกหยวกออกแล้วซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ บุบเม็ดพริกไทยให้แตก นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกัน เติมน้ำแร่เพื่อง่ายต่อการดื่ม เติมน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ แต่งรสชาติให้น่าดื่มด้วยน้ำผึ้ง ปั่นส่วนผสมทั้งหมดอีกรอบ ดื่มได้ทันที

takecaredd@gmail.com
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

น้ำผักผลไม้: สกัดน้ำผักใกล้ตัว ดื่มต้านเนื้องอก

by Nittiya on 2010-08-27 - 10.23 pm
ข้อมูลโดย : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ , Updated: 14/07/2010

จาก อัลบั้ม นสพ.เดลินิวส์

สกัดน้ำผักใกล้ตัว ดื่มต้านเนื้องอก
ส่วนผสมแรกที่ไม่บ่อยครั้งนักจะนำมาปรุง เป็นเครื่องดื่มนั่นคือ กระเทียม ที่ช่วยป้องกันเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี มีฤทธิ์ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและการเกิดเนื้องอก

ไม่อยากมีเนื้องอก ไม่อยากเป็นมะเร็ง...มุมสุขภาพ-กินดี สัปดาห์นี้จึงค้นสูตรเครื่องดื่มจากหนังสือ 80 สูตรน้ำผัก-ผลไม้ เพื่อการล้างพิษและฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งคุณภาณุพงศ์ คำวชิรพิทักษ์ ระบุไว้ว่าสามารถช่วยต้านการเกิดเนื้องอก ตัวการนำมะเร็งร้ายมาสู่ร่างกาย

ส่วน ผสมแรกที่ไม่บ่อยครั้งนักจะนำมาปรุงเป็นเครื่องดื่มนั่นคือ กระเทียม ที่ช่วยป้องกันเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี มีฤทธิ์ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและการเกิดเนื้องอก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อ แถมกระเทียม ยังมีธาตุซีลีเนียม ที่สามารถขจัดของเสียงออกจากเลือด ทำให้เลือดบริสุทธิ์และไหลเวียนได้สะดวก

ที่ แปลกไปอีกอย่าง คือ พริก มีวิตามินเอ วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน ทั้งหมดจะช่วยขยายเส้นเลือด โดยเฉพาะในลำไส้และกระเพาะอาหาร พร้อมช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย

แตงกวา ผักที่อุดมด้วยโพแทสเซียม กรดโฟลิก คลอรีน แคลเซียม และกำมะถัน สามารถช่วยขับปัสสาวะและลดอาการบวมน้ำ ส่วน มะเขือเทศ มีสรรพคุณช่วยย่อย ทำให้เลือดเป็นด่าง เพราะในมะเขือเทศเปี่ยมไปด้วยไฟโตเคมิคอล ไลโคปีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และไบโอติน

ส่วนผสมข้างต้น ควรเตรียมให้ได้ดังต่อไปนี้...

กระเทียม 4-5 กลีบ
พริกแดง 1 เม็ด
แตงกวา 2 ถ้วย
มะเขือเทศ (สุกแดงเต็มที่) 1 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

ขั้นตอนทำเครื่องดื่มต้านเนื้องอก เริ่มจากฝานมะเขือเทศเป็นแว่นบาง ๆ เช่นเดียวกับแตงกวาซึ่งไม่ต้องปลอกเปลือก ส่วนพริกแดงให้คว้านเอาเมล็ดออก หั่นพริกพอหยาบ บุบกระเทียมพอแตกลอกเปลือกออก จากนั้นรวมส่วนผสมทั้งหมดไปสกัดพร้อมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้ ก่อนดื่มเติมน้ำแข็งเพื่อความเย็นสดชื่น.

takecareDD@gmail.com

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ของว่าง: คานาเป้ ของว่างไม่อ้วน

by Nittiya on 2010-08-27 - 10.00 pm
ข้อมูลโดย : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ , Updated: 16/04/2010


คานาเป้ ของว่างไม่อ้วน

ในสัปดาห์ที่ผู้อ่านส่วนใหญ่มีวันหยุดยาว ต่อเนื่องเช่นนี้ หลายท่านคงเพลิดเพลินกับการพักผ่อนและสนุกกับเรื่องการกิน หรือที่เรียกว่า เอนจอย อีตติ้ง จนน้ำหนักอาจพุ่งพรวด พาลต้องมานั่งกลุ้มใจ หาวิธีลดในตอนหลัง

มุมสุขภาพ-กินดี มีคำแนะนำดี ๆ มาย้ำเตือนเรื่องการกินเพื่อสุขภาพอย่าให้อ้วน โดยยึดหลักแคลอรีจากอาหารที่รับประทาน

การจะรู้ค่าจำนวนแคลอรีที่เหมาะสมนั้น ผู้อ่านต้องใช้น้ำหนักตัว(กิโลกรัม) คูณด้วย 25 จึงจะได้ค่าปริมาณแคลอรีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม นำ 50 x 25 ผลลัพธ์ คือ 1,250 กิโลแคลอรี

แต่มีปัญหาอยู่ว่า ผู้ที่มีน้ำหนักตัวไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะอ้วนหรือผอมเกินไปนั้นควรคำนวณอย่างไร? หากเป็นเช่นนั้นต้องหาน้ำหนักตัวที่เหมาะสมเสียก่อน ด้วยสูตรง่าย ๆ คือ ส่วนสูง(เซนติเมตร) ลบ 100 (ผู้ชาย) หรือ 110 (ผู้หญิง) เช่น คุณเอ เป็นผู้หญิง มีน้ำหนักตัว 68 กิโลกรัม สูง 158 เซนติเมตร หาปริมาณแคลอรีด้วยการนำ ส่วนสูง 158 - 110 ผลลัพธ์ คือ 48 กิโลกรัม

จากนั้นนำน้ำหนักตัวที่เหมาะสมไปเข้าสูตรคำนวณแคลอรี คุณก็จะทราบว่า ในแต่ละวันร่างกายมีความสามารถในการเผาผลาญอาหารที่รับประทานเข้าไปเพียงใด เพราะหากรับประทานเกินความจำเป็น พลังงานที่เผาผลาญไม่หมดจะกลายเป็นไขมันสะสมจนอ้วน อีกนัยหนึ่ง คือ การรับประทานอาหารที่คำนวณแคลอรีตามน้ำหนักตัวที่ควรจะเป็นสามารถควบคุม น้ำหนัก ลด หรือเพิ่มได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กินดี มีสูตรอาหารว่างอย่าง คานาเป้ ที่ผ่านการคำนวณแคลอรีของส่วนผสมแต่ละอย่างจากทีมโภชนาการโรงพยาบาลนครธน นำมาสาธิตในกิจกรรมเสวนา เอจจิ้ง สลิมมิ้ง ค้นพบเคล็ดลับสาว 40+ กินอย่างไร ไม่อ้วน ไม่แก่ ซึ่งจัดโดยส่วนงานรักลูก วูแมน ในเครือรักลูกกรุ๊ป

โดยส่วนผสมของการทำคานาเป้ ที่ต้องเตรียมตามส่วนเพื่อให้ได้ปริมาณแคลอรีตามสูตร ประกอบด้วย...
• แครกเกอร์ 3 ชิ้น ให้พลังงาน 60 แคลอรี
• แครอทต้มสุกหั่นลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 5 แคลอรี
• มันฝรั่งต้มสุกหั่นลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 8 แคลอรี
• ปลาทูน่า 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 15 แคลอรี
• เนื้อไก่ต้มสุกหั่นชิ้นเล็ก 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 15 แคลอรี
• ซาลารี พอประมาณ ไม่คิดพลังงาน
• ผักกาดหอม พอประมาณ ไม่คิดพลังงาน
• น้ำสลัด (สูตรไขมันต่ำ) 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 45 แคลอรี

ขั้นตอนในการปรุง เริ่มจากการใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปคลุกเคล้าที่ชามผสม จากนั้นตักแบ่งใส่แครกเกอร์ที่เตรียมไว้ สามารถรับประทานเป็นอาหารว่างร่วมกับน้ำสำรองที่มีสรรพคุณช่วยลดไขมันในร่าง กาย โดยน้ำชนิดนี้หากดื่มแบบที่ไม่ปรุงแต่งให้เสียรส จะไม่คิดพลังงาน

เพราะฉะนั้น อาหารว่างมื้อนี้ คุณผู้อ่านจะได้พลังงานจากอาหารซึ่งนำปริมาณแคลอรีของส่วนผสมทั้งหมดมารวม กันได้ 148 กิโลแคลอรี เท่านั้น.

takecareDD@gmail.com
@@@
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อาหารหวาน : กระท้อนลอยแก้ว

by Nattiya on 2010-08-18 11.51 PM

จาก อัลบั้มประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ที่มา: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 11:50:52 น.
คอลัมน์ Dining in
โดย savoury cake



ปี นี้เรายุ่งวุ่นวายจนผ่านหน้ากระท้อนมาแล้วยังไม่ได้ทำกระท้อนลอยแก้วกินเลย จริง ๆ แล้วเราควรจะทำเมนูนี้กันตั้งแต่ตอนกระท้อนเยอะล้นตลาดนะคะ แต่มาทำ ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไปหรอกค่ะ (ดีกว่าอดกินเนอะ !) เพราะเพิ่งผ่านหน้ากระท้อนมาตามตลาดก็พอมีหลงเหลือให้เห็นกันบ้าง เราสามารถใช้กระท้อนลูกธรรมดา ๆ ได้ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นลูกใหญ่ปุยเยอะ ๆ

การ ทำกระท้อนลอยแก้วนั้นไม่เหมือนการทำลอยแก้วชนิดอื่นตรงที่กระท้อนต้องนำไป แช่น้ำเกลือก่อนลอยแก้ว การแช่น้ำเกลือนี้จะทำให้เนื้อกระท้อนเป็นสีชมพูสวย และทำให้รสชาติอร่อยเพราะเนื้อกระท้อนจะหายฝาดและเกลือยังเพิ่มรสชาติให้ลอย แก้วกลมกล่อมขึ้นอีกด้วย

ทำน้ำเกลือโดยผสมน้ำ 2 ลิตร กับเกลือทะเล 4-6 ช้อนโต๊ะ ชิมรสดูให้เค็มปะแล่ม ใช้กระท้อนสัก 2 กิโลกรัม ปอกเปลือกออก และฝานเนื้อฝาด ๆ ทิ้งไปบ้าง แช่ลูกกระท้อนไว้ในน้ำเกลือ

ทำน้ำเชื่อมลอยแก้วโดยผสมน้ำตาล 500 กรัม และน้ำสะอาด 1 ลิตร และเกลือทะเล 1/4 ช้อนชา เคี่ยวให้น้ำตาลละลายแล้วทิ้งไว้ให้เย็น

มี วิธีทำลอยแก้ว 2 แบบคือ แบบใช้ทั้งผลผ่าครึ่งจะหน้าตาสวยเหมือนดอกไม้ หรืออีกแบบคือหั่นเป็นชิ้นพอคำผสมในลอยแก้วเลย โดยปกติเค็กจะชอบอย่างหลังมากกว่าเพราะรสชาติเข้าเนื้อมากกว่า

ถ้า จะทำแบบดอกไม้ ผ่าครึ่งตามขวางของลูก ใช้มีดแกะสลักอันเล็ก ๆ ค่อย ๆ แกะเมล็ดออกให้หมด พยายามเก็บปุยขาว ๆ ไว้ที่เนื้อกระท้อนให้ได้มากที่สุด อย่าให้หลุดไปกับเมล็ด นำกระท้อนนี้ลงแช่ในน้ำเกลือ อีกรอบ

แบบชิ้นนั้นให้ผ่ากระท้อนออกครึ่งหนึ่งแล้วหั่นให้เป็นชิ้นบาง ๆ ยาวพอคำ พยายามหั่นกระท้อนทุกชิ้นให้ติดทั้งเนื้อสีชมพูและ

ปุยสีขาว ใส่เนื้อกระท้อนลงในน้ำเกลือเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้ดำ

เรา จะเลือกทำลอยแก้วแบบไหนก็ได้ตามใจนะคะ เมื่อทำเนื้อเสร็จแล้วก็ให้ตักเนื้อขึ้นจากน้ำเกลือใส่กระชอนไว้จนน้ำเกลือ หยดออกเกือบหมดจึงจัดใส่ชาม ตักน้ำเชื่อมลอยแล้วที่ทำไว้ราดจนชุ่มดีท่วมเนื้อกระท้อน ซึ่งจะมีน้ำเชื่อมเหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่งก็ให้เก็บใส่ชามไว้

เมื่อ พร้อมรับประทาน ตักกระท้อนใส่ชามโรยด้วยน้ำแข็งทุบละเอียดราดด้วยน้ำเชื่อมอีกนิดจะออกรส ชาติเปรี้ยวอมหวานทานแล้วหอมอร่อยชื่นใจที่สุดค่ะ

ตู้กับข้าว

เกลือทะเล

อาหารประจำบ้าน

น้ำตาล

สีสัน

กระท้อน

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อาหารกับสุขภาพ: ปรอทในไข่เค็ม



ปรอทในไข่เค็ม

คนไทยโชคดีที่มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงไม่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่กำลังก่อตัวคุกคามในหลายๆประเทศ

เรื่องราวความเป็นมาของอาหารหลายชนิดได้ถูกนำขึ้นมาเป็นจุดขาย เพราะหลายๆคนสนใจเกี่ยวกับที่มา กรรมวิธีการปรุงและการผลิต

ยกตัวอย่างในวันนี้ มีอาหารชนิดหนึ่งที่คนไทยไม่ควรลืมนั่นคือ ไข่เค็ม

ไข่ เค็มเป็นอาหารพื้นบ้านธรรมดาที่คนไทยเราบริโภคกันมานาน วิธีการทำนั้นไม่ยาก คือ นำไข่เป็ดที่เลี้ยงไว้ตามบ้านมาพอกด้วยดินจอมปลวกผสมเกลือ และนำมาหุ้มด้วยขี้เถ้าแกลบ ทิ้งไว้ประมาณ 20 วัน ก็สามารถนำมารับประทานได้

ถ้าเป็นการผลิตในสมัยก่อน เรื่องวัตถุเจือปนและสารปนเปื้อนต่างๆนั้น ไม่มีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับเนื้อไข่ได้แน่นอน คนกินก็ปลอดภัย

แต่สมัยนี้ไม่แน่ จากเดิมที่เคยใช้ดินพอกก็หันมาใช้วัตถุดิบอย่างอื่นมาพอกแทน โดยลืมคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของคนกิน

หวังเพียงเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่ไม่สนใจว่าคนกินจะได้รับอันตราย

วันนี้คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะพบสารปรอทปนเปื้อนอยู่ในไข่เค็ม

ถ้า สถานที่ผลิตไข่เค็มตั้งอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมหนักที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่ แม่น้ำ หรืออาจปนเปื้อนมากับดินที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตไข่เค็ม

วันนี้สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างไข่เค็มที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 6 ตัวอย่าง เพื่อวิเคราะห์หาสารปรอทปนเปื้อน

ผล ปรากฏว่า พบปนเปื้อนจำนวน 4 ตัวอย่าง แต่พบในปริมาณที่น้อยและยังอยู่ในเกณฑ์ที่ทาง อย.กำหนด คือ พบสารปรอทปนเปื้อน ได้ไม่เกิน 0.02 มิลลิกรัม/อาหาร 1 กก.

วันนี้บริโภคไข่เค็มกันได้อย่างสบายใจ แต่ขอแนะว่า ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากๆ และบ่อยมากนัก เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย.


ขอบคุณที่มา: ไทยรัฐออนไลน์
• โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
• 13 สิงหาคม 2553, 05:00 น.

อาหารกับสุขภาพ: ปรอทในไข่เค็ม



คนไทยโชคดีที่มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงไม่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่กำลังก่อตัวคุกคามในหลายๆประเทศ

เรื่องราวความเป็นมาของอาหารหลายชนิดได้ถูกนำขึ้นมาเป็นจุดขาย เพราะหลายๆคนสนใจเกี่ยวกับที่มา กรรมวิธีการปรุงและการผลิต

ยกตัวอย่างในวันนี้ มีอาหารชนิดหนึ่งที่คนไทยไม่ควรลืมนั่นคือ ไข่เค็ม

ไข่ เค็มเป็นอาหารพื้นบ้านธรรมดาที่คนไทยเราบริโภคกันมานาน วิธีการทำนั้นไม่ยาก คือ นำไข่เป็ดที่เลี้ยงไว้ตามบ้านมาพอกด้วยดินจอมปลวกผสมเกลือ และนำมาหุ้มด้วยขี้เถ้าแกลบ ทิ้งไว้ประมาณ 20 วัน ก็สามารถนำมารับประทานได้

ถ้าเป็นการผลิตในสมัยก่อน เรื่องวัตถุเจือปนและสารปนเปื้อนต่างๆนั้น ไม่มีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับเนื้อไข่ได้แน่นอน คนกินก็ปลอดภัย

แต่สมัยนี้ไม่แน่ จากเดิมที่เคยใช้ดินพอกก็หันมาใช้วัตถุดิบอย่างอื่นมาพอกแทน โดยลืมคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของคนกิน

หวังเพียงเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่ไม่สนใจว่าคนกินจะได้รับอันตราย

วันนี้คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะพบสารปรอทปนเปื้อนอยู่ในไข่เค็ม

ถ้า สถานที่ผลิตไข่เค็มตั้งอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมหนักที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่ แม่น้ำ หรืออาจปนเปื้อนมากับดินที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตไข่เค็ม

วันนี้สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างไข่เค็มที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 6 ตัวอย่าง เพื่อวิเคราะห์หาสารปรอทปนเปื้อน

ผล ปรากฏว่า พบปนเปื้อนจำนวน 4 ตัวอย่าง แต่พบในปริมาณที่น้อยและยังอยู่ในเกณฑ์ที่ทาง อย.กำหนด คือ พบสารปรอทปนเปื้อน ได้ไม่เกิน 0.02 มิลลิกรัม/อาหาร 1 กก.

วันนี้บริโภคไข่เค็มกันได้อย่างสบายใจ แต่ขอแนะว่า ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากๆ และบ่อยมากนัก เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย.


ขอบคุณที่มา: ไทยรัฐออนไลน์
• โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
• 13 สิงหาคม 2553, 05:00 น.

บ้านอาหาร: สูตรพิซซ่าบ้านน้องฉัน

วันนี้อิฉันได้รับpost massege ในบอร์ดmember จากน้องป้าพิมพ์(เอ เรียกน้องแล้วทำไมต้องมีป้า คือว่าน้องคนนี้เรียกกันในบอร์ดว่าป้า รวมทั้งอิฉันด้วย ก็เลยตามเลย ทำไงได้ ตัวยังหนุ่มอยู่ละกัน 555) พอดีช่วงนี้ กำลังเข้าคอร์สลดน้ำหนักอยู่ (สูตรตัวเอง) เลยตอบไปว่า...

"อ้อ วันนี้ วันหยุด รัฐบวยหอยหลอดมันให้เป็นวันหยุด หวิดจะไปทำงานแล้ว เพราะไม่ได้ดูทีวี ลูกเหลืองมันบอก หัวเราะใหญ่เลย แซวว่า "ไหวไหม๊นี่ป้้า"
ขอบคุณสำหรับสูตรพิดช้า พักนี่คงก๊อบเก็บไว้ก่อน เพราะกำลังเข้าคอร์สลด นน.ลงมาหน่อย วันที่ 20-22 สคนี้จะไปประชุมที่ จ.ระยอง(ฮิสั้น จันทน์ ฮิยาว) เสื้อผ้าใส่ไม่ได้เลย โดยเฉพาะสูท ใส่แล้วเหมือนอึ่งอ่าง(ย่อมๆ น้องๆเจ๊ปลาวาน) คิดแล้วกลุ้มจัง"

สูตรที่ว่านั้นมีดังนี้...

"วันนี้ตีแป้งพิซซ่าอีกแล้วค่ะ ที่ทำไว้หมดแล้ว อยากจะทำให้ทุกคนชิมขี้มือ เอ๊ย ฝีมือจังเลย ปรุงซอสตามใจฉันนี่มันอร่อยจริงๆน่ะค่ะป้าขา ลืมพิซซ่าร้านใหญ่ๆไปเลย เอางี๊มั๊ย ถ้าพี่อยากทาน จะเอาแป้งที่ทำแล้วและซอส ปรุงรสด้วยตามใจฉันไปให้ แล้วก็ปรุงหน้าเอาเอง ใส่อะไรได้ที่เราชอบ แล้วเข้าเตาอบเองเลย แต่ว่าที่แม็คโครเค้าก็มีแผ่นแป้งขายน่ะค่ะ แต่ก็แพงอยู่น่ะ 3 ชิ้นเอง ร้อยกว่าบาทแล้ว สำคัญจะอร่อยหรือไม่อยู่ที่ซอสค่ะ ทำเองก็ได้ หนูจะบอกสูตรให้

1. หอมหัวใหญ่ๆ 2 หัว หั่วแล้วซอยละเอียด
2. มะเขือเทศลูกใหญ่ ล้าง แล้วผ่ากลาง เอาเม็ดออก หั่นซอยละเอียด
3. กระเทียม+พริกไท ตำละเอียด
4. เกลือ เริ่มจาก 1 ช้อนชา ตามปริมาณของซอส
5. น้ำตาลทราย
6. ซอสมะเขือเทศ(ยี่ห้อ ไฮส์) เพราะรสชาติของซอสยี่ห้อนี้จะออกรสเปรี้ยว ไม่เลี่ยน
7. เนยสดหรือ น้ำมันมะกอก

ต่อไปก็วิธีทำซอส
เอากะทะตั้งไฟอ่อนๆ ใส่เนยสดหรือน้ำมันมะกอก เอาส่วนผสมข้อ 3 ลงไปผัดให้หอมก่อน อ้อ..อย่าไหม้น่ะค่ะ แล้วใส่ส่วนผสมข้อที่ 1 ลงไปผัด ให้หอมอีกเช่นกัน แล้วเอา ส่วนผสมข้อที่ 2 ตามลงไป อันนี้นานหน่อยค่ะ เพราะต้องใช้เวลา ให้มะเขือเทศเลย ไม่ต้องเติมน้ำ เพราะมะเขือเทศ จะมีน้ำในตัวอยู่แล้ว ต่อไปใส่ข้อที่ 4,5,6 แล้วชิมดู ตามใจฉันว่าชอบรสอะไร ถ้าชอบเปรี้ยวนำ ก็เติม ข้อที่ 6ลงไปอีก ไม่ต้องเติมน้ำส้ม

อ้อ..ต้องเคี่ยวให้น้ำมะเขือเทศ แห้งลงไปหน่อยน่ะค่ะ ด้วยไฟปานกลาง อย่าให้ไหม้ก็โอเชแล้วค่ะ เสร็จแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นไว้ทานได้หลายชุดเชียวค่ะ (ทำเองปลอดภัยกว่าค่ะ ถ้าขยันน่ะค่ะ ถ้าขี้เกียจก็ซื้อเอา ซอสตัวนี้ ใช้ทานกับสปาเก็ตตี้ได้ด้วยน่ะ เพราะวิธีทำเหมือนกัน เพียงแต่เติมเนื้อลงไป ก็อร่อยแล้วค่ะ สูตรนี้ จำมาจาก ภัตตาคารเชียวน่ะ)

ตีแป้งลำบากหน่อย ตอนนี้ก็ไปซื้อเอาก่อนก็แล้วกันน่ะค่ะ ลองดูก่อนน่ะค่ะ
ไม่เกี่ยวกับกระทู้เลยน่ะค่ะ ไม่เป็นไร ตามใจฉันค่ะ ฮะฮะฮะ.

อิฉันฟังเสียงหัวเราะแล้วท่าทางจะอร่อยนะ (เกี่ยวไหมีนี่)
Nattiya.
2010 08 13, 08.05pm

ร้านอาหาร: เปิดบ้าน"สยาม 77" กินข้าวริมน้ำเจ้าพระยาชมพระอาทิตย์ตก



เปิดบ้าน"สยาม 77" กินข้าวริมน้ำเจ้าพระยาชมพระอาทิตย์ตก
โดย พี่พุงหลามกับน้องพุงล้น

นานๆจะได้ไปแวะเวียนไปนั่งริมน้ำพักผ่อน หย่อนพุงตรงตามชื่อคอลัมน์สักที ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับสะพานพระราม 5 มีบ้านหลังหนึ่งที่ปรับเปลี่ยนจากบ้านสวนเป็นร้านอาหารตกแต่งด้วยเครื่องใช้ ของเก่าเก็บเข้ากับบ้านไม้ได้อย่างสวยงามและลงตัว

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์


ร้าน "สยาม 77" บ้านริมน้ำเจ้าพระยาแต่เดิมเคยเป็นสวนผลไม้เมืองนนท์ ชวนระลึกถึงทุเรียนก้านยาวแชมป์ทุเรียนจังหวัดนนทบุรี ทาง เข้าจึงค่อนข้างลำบากแต่รับรองว่าคุ้มค่า ขับรถเลาะซ้ายสะพานพระราม 5 ฝั่งถนนพิบูลสงครามเลี้ยวขวาใต้สะพานเข้าไปในซอยประมาณ 500 เมตร แต่เส้นทางค่อนข้างจะแคบแต่ยังพอมีช่องให้รถสวนทางกันได้บ้างมีลานจอดกว้าง ขวางอยู่หน้าร้าน ถ้าใครไม่ถนัดเข้าที่แคบขอแนะนำให้จอดรถไว้ใต้สะพานแล้วนั่งรถสามล้อซิ่งที่ ทางร้านเตรียมไว้คอยบริการลูกค้าโดยเฉพาะ

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

บรรยากาศยามเย็นริมคุ้งน้ำเจ้าพระยา พระอาทิตย์กำลังเคลื่อนคล้อยต่ำอ้อยอิ่งอยู่บนยอดไม้แสงตกกระทบผิวน้ำที่มี เกลียวคลื่นเล็กๆส่องแสงมีทองระยิบระยับสบายตากับลมเย็นๆ ฟังเสียงคลื่นเซาะฝั่งยามที่เรือด่วนเจ้าพระยาล่องผ่านไป

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์


ที่ท่าน้ำมีโต๊ะ "วีไอพี" ตั้งอยู่ 4-5 โต๊ะ ทุกคนมีสิทธิได้นั่งเท่ากันหมด "ถึงก่อนมีสิทธิก่อน" หรือโทรมาจองได้แต่ถ้ามาไม่ทันยังมีที่นั่งริมน้ำอีกกว่า 40 โต๊ะทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ให้เลือกได้ตามใจชอบ

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

มุมถ่ายภาพ

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์

หลังจากพี่พุงหลามกับน้องพุงล้นและเพื่อนๆแก๊ง"พุงพลุ้ย"หาที่นั่งได้ แล้วก็หยิบเมนูมาสั่งอาหารตามคำแนะนำของพรรคพวกที่การันตีว่าอิ่มใจ อิ่มท้อง แน่นอน พวกเราเลือกนั่งที่ชั้น 2 ของร้านเพื่อหลบความวุ่นวายและฟังนักร้องเล่นดนตรีพร้อมกับฮัมเพลงให้พวกเรา ฟังระหว่างรออาหาร จึงเดินสำรวจของเก่าในร้านมีหลายชิ้นที่ถูกอกถูกใจ "ต้องได้แค่ตามือห้ามจับติดมือกลับ" โดยเฉพาะ โปสเตอร์หนัง โฆษณา สมัยที่ยังใช้แผ่นสังกะสี รถจักรยาน วิทยุ ทีวี เก่าวางไว้ตามมุมต่างๆ ประดับประดาเพิ่มเสน่ห์ให้กับร้านได้อย่างลงตัว
จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
กุ้งตะไล
เมนูฮิตของร้านจานแรกถูกยกมาวางถ้วย เล็กๆที่วางบนจานมีกุ้งนอนขดแช่น้ำจิ้มอยู่ถ้วยเล็กๆโรยด้วยใบสะระแหน่ แค่เห็นก็เปรี้ยวปากแล้ว 1 ถ้วยต่อ 1 คำ ประเดิมของคาวเรียกน้ำย่อยกันเอร็ดอร่อยจนต้องสั่งเพิ่มอีก 2 จาน ตามด้วยกุ้งแม้น้ำตัวโตแม่ครัวนำมาทอดเกลือกินกันจนลืมเก็บภาพกุ้งมาฝากเลย ทีเดียว

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
จานต่อมาเป็น"ปอเปี๊ยะปากอ้า" แทบทุกโต๊ะจะต้องสั่งมาเคี้ยวเล่นเพราะเนื้อแป้งที่บางกรอบห่อไส้ด้วยหมูสับ ปรุงรสมีน้ำเชื่อมหวานๆราดก่อนหั่นตักเข้าปากหรือจะให้อร่อยต้องยกกัดเป็น คำๆ รับรองรสชาติแปลก อร่อยไม่เหมือนปอเปี๊ยะทั่วๆไปอย่างแน่นอน

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์


มากินข้าวริมน้ำทั้งทีเมนูที่ขาดไม่ได้ คือ "ปลา" ซึ่งที่นี้มีปลาให้เลือกมากมายแต่ที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุด คือ ปลาเนื้ออ่อน จะเอามา "ต้มยำทำแกง" หรือ "ทอด"อร่อย ไม้แพ้กัน เพราะวัตถุดิบที่สดและปรุงเสร็จใหม่ๆทำให้กลิ่นและรสชาติยอดเยี่ยมทำให้ร้าน นี้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือของคนที่เคยมารับประทาน ณ ร้าน "สยาม77" แห่งนี้

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
"ป้าริน" จิราพร ชูทองรัตน์ เจ้าของร้านสยาม 77 อายุ 64 ปี เล่าถึงที่มาของการตั้งชื่อร้านว่าบ้านเลขที่ 77 ส่วนคำว่า"สยาม" ขอนำชื่อประเทศมาตั้งถ้าจะให้ชื่อกรุงเทพฯหรือพระนครก็จะเล็กไป

ป้ารินนอกจากตำรงตำแหน่งเป็นเจ้าของกิจการแล้วยังเป็นแม่ครัวใหญ่ที่ทำ หน้าที่ปรุงอาหารให้ลูกค้าเองกับมือและเป็นหัวหน้าแผนกตรวจสอบคุณภาพวัตถุ ดิบโดยเฉพาะของสดที่มีเงื่อนไข ว่า"สด"แต่ลมหายใจสุดท้ายต้องดับดิ้นก่อนมาส่ง1 ชั่วโมง

เจ้าของร้านยืนยันว่ากุ้งบนจานที่กินกัน เป็นกุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาแท้ๆและชี้มือไปทีคุ้งน้ำหน้าร้านว่า ตอนกลางคืนจะมีคนนำเรือมาหากุ้งหาปลาใกล้ๆร้านและตอนเช้าจะนำมาขายให้กับทาง ร้านที่จะให้ราคาดีกว่าไปส่งตลาด บางวันได้ 2-3 กิโลกรัม บางครั้งได้มา 6 ขีด ลูกค้าส่วนใหญ่จะชอบ "กุ้งแม่น้ำคั่วเกลือ"

ส่วนวัตถุดิบประเภทเครื่องปรุงเครื่องเทศต่างๆป้ารินสั่งตรงมาจาก บางปะอินโดยน้องชายจะหิ้ว ขิง ข่า ตะไคร้ พริกขี้หนูฯลฯ มาจากสวนที่บางปะอิน ส่วนผักตำลึงและหัวปลีหาได้จากสวนใกล้ๆร้านมีต้นกล้วยขึ้นเรียงรายอยู่ข้าง ร้าน

ป้ารินย้ำหนักหนาว่า ของที่มาใช้ต้องปลอดสารพิษจึงต้องให้น้องขน มาจากสวนบางปะอินบางครั้งก็ต้องสั่งปลาสั่งกุ้งมาจากแถวนั้นด้วยหากทางนี้มี ไม่พอแต่ต้องมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกัน
จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
ป้ารินยังพูดถึงเมนู "ลูกเจ้าพระยา" ว่า เป็นอีกแมนูที่อร่อยมากเอาเนื้อปลาเนื้ออ่อนตัวเล็กๆที่เป็นลูกปลามาทอดคลุก เคล้ากับกระเทียม กินกับหมีกรอบราดน้ำกระเทียมดอง และแกงเขียวหวานกับโรตี เป็นเมนูพิเศษที่อยากให้ลูกค้าได้กินของดีและอร่อยแป้งโรตีนำเข้ามาจากบัง กลาเทศมาทอดกินกับแกงเขียวหวานไก่ กุ้ง หมู เลือกตามชอบ

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
"กุ้งตะไล" เมนูซู่ซ่าส์สำหรับคนที่ชอบรสจัด เผ็ด เปรี้ยว ที่จับกุ้งยัดเข้าไปนอนอยู่ในถ้วยแล้วราดน้ำจิ้มที่มีพริกขี้หนูสวนกระเทียม บีบมะนาวลงใส่ในถ้วยโรยใบสะระแหน่ ยกซดเป็นคำๆ เคี้ยวกรุบกรับเนื้อกุ้งที่ไม่แข็งและนุ่มจนเกินไป ลูกค้าบางคนสั่งกินคนเดียว 4 จาน 1 จานมี 8 ถ้วย

จาก อัลบั้ม มติชนออนไลน์
ป้ารินยังอธิบายถึงเครื่องคาวจบก็มาถึงของหวานรสชาติหอมหวานชื่นใจ สละ ลอยแก้ว กระท้อนลอยแก้ว วุ้นในน้ำเชื่อม ที่มีกลิ่นหอมของกระดังงาที่เอาไปลนไฟแล้วนำไปลอยในน้ำก่อนเอาไปเชื่อมกับ น้ำตาลทำให้กลิ่นของหวานหอมน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับท่านใดที่อยากพาคู่รักไปรับประทานรับรองว่าได้บรรยากาศ โรแมนติกไม่แพ้ที่ใดและสำหรับผู้ที่รักครอบครัวอยากพาญาติพี่น้องไปสังสรรค์ กินของอร่อยบรรยากาศเป็นกันเองแวะไปได้ หากกลัวว่าจะไม่มีที่นั่งหรือหลงทางโทรไปสอบถามได้ที่เบอร์ 089-7819665,082-0787422


ขอบคุณที่มา: มติชนออนไลน์
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 05:01:09 น.