วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554
เตือนก่อนสาย10หลุมดำเรื่องกิน
เรื่องกินก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นทุกคำที่กินก็ต้องกินอย่างมีสติ ไม่อย่างนั้นโรคภัยไข้เจ็บก็จะคุกคามตามมา
นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ มี 10 หลุมดำ เกี่ยวกับเรื่องของการกิน ฝากเตือนใจผู้อ่านรักษ์สุขภาพ ให้ใส่ใจกับพฤติกรรมการกินอาหาร
เริ่มจาก "กินเช้าดีแต่...ต้องมีลิมิต" อย่าคิดเน้น แป้ง (Refined carbohydrate) มากไป เช่น ข้าวราดแกงให้เพลาข้าวลงนิด หรือคิดกินเส้นก็เป็นเกาเหลาก็ยังได้ เพราะแป้งมากจะทำให้หิวง่ายก่อนเที่ยง แถมเสี่ยงอ้วนชวนโรคมาอีกพะเรอ
ต่อด้วยหลุมดำที่ 2 "กินแค่พออิ่ม" ด้วยเหตุว่ากระเพาะเป็นอวัยวะเฉื่อยกว่าจะส่งสัญญาณ “อิ่ม” ไปสมองต้องใช้ราว 15 นาที มีเทคนิกง่ายคือให้ “อิ่มก่อนอิ่ม”แล้วจะสบายท้องดีที่สุดครับ
หลุดถัดไป "ชอบลิ้มก่อนนอน" ขอให้ยามหลับเป็นเวลาพักไส้ ช่วงแรกอาจมีท้องกิ่วนิดๆ แต่ขอให้คิดเถิดครับว่า เพื่อให้สมองได้หลับสนิทแล้วหลั่ง “ธาตุนิทรา(Melatonin)” กับ “ธาตุหนุ่มสาว(Growth hormone)” แล้วตื่นมาจะสบายกว่าที่คิด ลองแล้วจะติดใจครับ
หลุมดำที่ 4 เรียกว่า "อย่าย้อนกระเพาะ" ขอให้เลี่ยงอาหารมัน เพราะเป็นอาหารคิดสั้นสำหรับโรคกระเพาะและกรดไหลย้อนครับ สำหรับอาหารเผ็ดยังไม่น่ากลัวเท่า เพราะของทอดและมันเป็นอาหารอร่อยสั้นแต่มันอยู่ในกระเพาะได้ยาวนานกว่าอาหารอื่น ขืนกินบ่อยต้องระวังกรดย้อนศรมาหานะเธอ
ครึ่งทางกับหลุมดำที่ 5 "กินต้องฝึก" นึกหิวเมื่อไรให้ดูว่า “หิวจริง” หรือ “หิวหลอก” บ่อยครั้งที่เป็นแค่ “อยาก” คือหิวแบบสับขาหลอกแต่ออกไปหากินจริง คนไทยชอบกินฉึกฉึก เอ๊ย...จุบจิบ เลยฝากวิธีง่ายไว้ให้ถามตัวเองว่า หิวขนาด “กินฝรั่งสดได้สักลูกไหม” ซึ่งถ้าใช่ก็หิวจริง วิ่งหาอาหารมากระแทกท้องได้
สำหรับหลุมดำที่ 6 คือ "นึกแต่หวาน" ของน่าทานชวนติดอันดับหนึ่งคือ “ของหวาน” ครับ คนไทยเป็น “โรคติดหวาน(Carbohydrate addiction)” กันมาก มีวิธีสังเกตง่ายว่าเมื่อไรกินข้าวเสร็จแล้วอยากหาเหตุกินของหวานล้างปากอีกหรือไม่ ถ้าใช่ก็ค่อยๆ เลิกครับ
ขณะที่หลุมดำเรื่องกินที่ 7 "ทานเน้นมัน(ดี)" ขอให้เลือก “ไขมันดี” ซึ่งไม่มีพระเอกเพียงคนเดียวครับ ต้องจับใช้ให้หลากหลายน้ำมันพืช,สัตว์ ยกเว้นน้ำมันพราย และอย่าใช้น้ำมันแบบแม่ไม่ปลื้ม คือ ยกขวดเท ให้ใช้ช้อนตักใส่กะทะหรือจะใช้แปรงทาก็ได้
หลุมดำที่ 8 "กินติดปรุง" อย่ายุ่งกับ “พวงเครื่องปรุง” ทุกครั้งไป เชฟเจ้าอร่อยเขาถือและมันคือสุขภาพที่เสียไปทุกช้อนที่เติมน้ำปลา,น้ำตาล,ซีอิ๊วหวานหรือซอส เพราะยอดของความอร่อยไม่ใช่รสอุมามิอย่างเดียวแต่เกี่ยวกับรสธรรมชาติแท้ๆด้วยครับ
มาถึงหลุมดำที่ 9 "มุ่งกินกาก" หากอยากให้สุขภาพดีจน “สุดไส้” แถมได้ “ล้างพิษ” ไปในตัวขอให้ช่วยกิน “เส้นใย(ไฟเบอร์)” ซึ่งได้แก่กากทั้งละลายน้ำได้และไม่ได้ เป็นต้นว่ากินผลไม้ก็ให้กินเปลือกด้วย(แต่ช่วยระวังทุเรียนและมังคุด) ให้อย่างน้อยวันหนึ่งได้ผักผลไม้สัก 5 ทัพพีครับ
หลุมดำสุดท้าย "อยากให้หลากหลาย" อย่าปลงใจกับลูกสาวแม่ครัวเจ้าเดียว ขอให้เทียวสลับอาหารให้หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง ขอให้เลี่ยงก๋วยเตี๋ยวสามมื้อหรือเช้าข้าวราดแกง กลางวันแกงราดข้าว หรือจะเอากับข้าวบ้านมาทานสักสัปดาห์ละครั้งก็เก๋ดี
@@@
ทราบแล้วลองนำไปปรับเปลี่ยนนิสัยการกินอาหารกันเสียไหม แล้วรอดูสุขภาพของคุณสิ.
takecareDD@gmail.com
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์ (update: วันจันทร์ ที่ 18 เมษายน 2554 เวลา 0:00 น.)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น