วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“Black Swan” กับเมนู Chocolate and Banana Meringue Pie




“Black Swan” กับเมนู Chocolate and Banana Meringue Pie

( หมายเหตุ นับเนื่องจากนี้ไปทุกวัน ก่อนจะมีการประกาศ รางวัล Oscars มติชนออนไลน์ จะนำเสนอ คอลัมน์ Road to the Oscars 2011 เมนูที่ได้รับแรงบันดาลจากภาพยนตร์ที่ส่งประกวดรางวัลออสการ์ ตอนแรก เชิญพบกับ Black Swan )

Black Swan : เมื่อ White Swan สัมผัสด้านมืดของตัวเอง

ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เราขอเอามาเสนอในโปรเจค Road to the Oscars 2011 ก็คือเรื่อง Black Swan ภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์ที่เล่าเรื่องของนักแสดงบัลเล่ต์หญิง “นีน่า” (นาตาลี พอร์ตแมน) ของคณะบัลเล่ต์ในนิวยอร์คที่ต้องเข้าสู่วังวนของการแข่งขันเพื่อบทนำสำหรับ การเปิดการแสดงของฤดูกาลใหม่ภายใต้ธีมเรื่อง “Swan Lake” ภายหลังผู้กำกับ โธมา ลีรอย (แวนซองต์ แคสเซล) ตัดสินใจเปลี่ยนนักบัลเล่ต์ตัวชูโรงอย่าง เบ็ธ แม็คอินไทร์ (วิโนน่า ไรเดอร์)






แม้นีน่าจะเป็นตัวเลือกอันดับแรกของลีรอย แต่ก็ต้องแข่งกับนักเต้นหน้าใหม่อย่างลิลลี่ (มิรา คูนิส) โดย Swan Lake ต้องการนักเต้นที่สามารถแสดงได้ทั้ง White Swan ที่มีความไร้เดียงสาและความงาม กับ Black Swan ซึ่งเป็นตัวแทนของการหลอกลวงและความหลงใหล

นีน่าเหมาะกับบท White Swan อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ลิลลี่กลับมีลักษณะของ Black Swan การแข่งขันสืบเนื่องไปท่ามกลางความสัมพันธ์ที่เป็นสัมพันธภาพอันผิดเพี้ยน นีน่าเริ่มเผลอเข้าสัมผัสด้านมืดของตัวเธอเอง และตกอยู่ในวังวนแห่งการขาดสติ ที่เปรียบเสมือนลางร้ายที่ทำลายตัวเธอเอง






นาตาลี พอร์ทแมน ได้คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงมาครองมาแล้ว รวมถึงรางวัลจากสมาคมภาพยนตร์อีกหลายแห่ง และที่สำคัญเธอเป็งเต็งจ๋าที่จะคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงจากเวทีออสการ์ใน ครั้งนี้

พูดถึงเรื่องหนังเสียยืดยาว อยากรู้กันแล้วใช่ไหมครับว่าเมนูนั้นคืออะไร

Chocolate and Banana Meringue Pie คือชื่อเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Black Swan ด้วยธีมเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เน้น ‘สีขาว-สีดำ’ อันมาจาก Black Swan และ White Swan ตามบัลเล่ต์เรื่อง Swan Lake ความสง่างามของบัลเลรีน่า ทำให้ผมนึกถึงของหวานอย่างเมอแรงก์ขึ้นมาเลยครับ จากคอนเซ็ปต์แรกนี้จึงคิดได้ว่าทำเป็นพายที่มีสีขาวและสีดำตัดกันน่าจะดูดี และตรงกับธีมของ Black Swan






สีขาวจากไข่ขาวที่ถูกตีจนขึ้นฟู เบาบาง อ่อนโยน ละเมียดละไม

วางเทียบกับสีดำทมิฬของคัสตาร์ดดาร์กช็อกโกแลตรสเข้มข้นที่เสริมความ ละมุนด้วยกล้วยหอมหั่นเต๋า และฐานพายที่ทำจากคุกกี้ช็อกโกแลต (ไม่ขอเน้นแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าโฆษณา 55) ความขัดแย้งที่ต่างกันสุดขั้วแต่ก็ลงตัวอย่างมาก เมื่อกินด้วยกันแล้วยิ่งอร่อยขึ้นใหญ่ เพราะไม่เน้นความหวานจนเกินไป อีกทั้งรสขมอ่อนๆ ก็ให้ความรู้สึกประหนึ่งชมภาพยนตร์เรื่องนี้

ถึงกระนั้นก็เถอะนะครับ ท่ามกลางคอนเซ็ปต์สวยหรู แต่กลับปรากฏตำหนิตอนปฏิบัติจริง เพราะดันปล่อยให้พายอยู่ในเตานานไปครับ ทำให้เมอแรงก์ดูน้ำตาลเกินกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าผิวนอกของเมอแรงก์เป็นสีขาวมากกว่านี้จะทำให้เห็นสีขาว-ดำชัดเจนอีกเยอะ เลยครับ ยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ






เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับจากแรกของโปรเจค Oscars 2011 จาก TourDeFoodBlog วันพรุ่งนี้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องไหน และจะให้แรงบันดาลใจผลิตออกเป็นเป็นอาหารหน้าตาอย่างไร อย่าลืมติดตามครับ!


Chocolate and Banana Merijavascript:void(0)ngue Pie (สำหรับพายขนาด 9 นิ้ว)




ส่วนฐาน
คุกกี้ช็อกโกแลต (โอรีโอ ครีมโอ ฯลฯ แล้วแต่ชอบครับ) เอาแต่ส่วนคุกกี้และบดจนละเอียด 220 กรัม หรือประมาณ 2 แถว
เนยจืด 100 กรัม
ส่วนคัสตาร์ด
นมสดรสจืด 3 ถ้วย
ดาร์กช็อกโกแลตสับหยาบๆ (ขมมาก-น้อยแล้วแต่ชอบ แต่เลือกยี่ห้อดีๆ มาใช้นะครับ) 113 กรัม หรือ 1 ห่อ
น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ไข่แดง 3 ฟอง
เนยจืดหั่นเป็นเต๋าเล็กๆ 30 กรัม
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
กล้วยหอมหั่นเป็นเต๋าเล็กๆ 200 กรัม
ส่วนเมอแรงก์
ไข่ขาว 3 ฟอง
น้ำตาล 1/3 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
น้ำส้มไวน์ขาว 1 ช้อนชา






วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไว้ที่ 180°C

2. ทำฐาน: ผสมคุกกี้ช็อกโกแลตบดกับเนยจืดเข้าด้วยกัน และกรุลงฐานพายขนาด 9 นิ้วให้แน่นจนพื้นเรียบเสมอกันและด้านรอบสูงเท่าขอบพิมพ์ นำไปแช่ตู้เย็นจนฐานแข็งตัว

3. ทำคัสตาร์ด: ผสมนมและช็อกโกแลตเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟและคนตลอดเวลาจนช็อกโกแลตละลายและนมร้อนจนเกือบเดือด ยกลงมาจากเตา พักไว้

4. ผสมน้ำตาล แป้งสาลี แป้งข้าวโพด และเกลือเข้าด้วยกัน เทไข่ลงไปผสมและตีจนเข้ากันดี ค่อยๆ รินส่วนของนมลงไปช้าๆ โดยใช้ตะกร้อมือตีไปพร้อมๆ กัน จนเข้ากันดี

5. เทส่วนผสมที่ตีผสมกันแล้วกลับลงหม้ออีกครั้ง นำกลับไปตั้งไฟอ่อนๆ และใช้ตะกร้อตีตลอดเวลาจนกระทั่งส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น เนื้อเนียน ยกลงจากเตา พักไว้ให้พออุ่น แล้วค่อยใส่เนยจืด วานิลลา และกล้วยหอมลงไป คนเบาๆ ให้กล้วยหอมกระจายทั่ว และเนยละลายจนหมด เทส่วนของคัสตาร์ดลงพิมพ์ เกลี่ยผิวด้านบนให้พอเรียบ

6. ทำเมอแรงก์: ตีไข่ขาวด้วยความเร็วปานกลางจนพอขึ้นฟอง ค่อยๆ ใส่น้ำตาลลงไปทีละช้อนโต๊ะและตีต่อไปด้วยความเร็วสูง จนกระทั่งไข่ขาวเริ่มตั้งยอดอ่อน ใส่น้ำตาลไปเรื่อยๆ แล้วค่อยใส่แป้งข้าวโพด น้ำส้มไวน์ขาว ลงไปพร้อมๆ กับน้ำตาลชุดสุดท้าย ตีจนได้ยอดแข็ง แต่ไม่ต้องแข็งมากจนเกินไป

7. ตักเมอแรงก์ไว้ด้านบนของพาย เกลี่ยให้ทั่ว แล้วนำเข้าอบในเตาประมาณ 10 นาที จนผิวเมอแรงก์เหลืองดี (ถ้าอยากให้ยอดเหลือง ใช้ไฟแรงหน่อยและลดเวลาอบลง) ตัดเสิร์ฟได้ทันที






( เรื่อง โดย ‘TourDeFoodBlog’ ติดตามเรื่องเก่า ๆ ได้ที่ http://www.tourdefoodblog.com/ หรือที่เฟซบุค http://www.facebook.com/TourDeFoodBlog )
Source: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1298003006&grpid=01&catid=&subcatid=











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น