10 ข้อเปิดความจริง! เช้ากินเยอะ เย็นไม่กิน ไม่อ้วนจริงหรือ...?
เมื่อเราตั้งใจจะลดน้ำหนักเคยมีคนบอกให้คุณทานอาหารเช้าเยอะๆแล้วทานอาหารเย็นน้อยๆ ไหม จำเป็นหรือไม่? นี่เป็นความเชื่อที่ถูกต้องแล้วจริงหรือ วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ นำคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาไขข้อกระจ่างกัน...
นนท์ อัลภาชน์ หรือมิกกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจากมหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตท ของสหรัฐฯ สาขาฟิตเนส แอนด์ นิวทรีชั่น และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย ECU Edith Cowan University สาขา Strength and Conditioning จากประเทศออสเตรเลีย บอก 10 ความจริงผ่านไทยรัฐออนไลน์ถึงช่วงเวลาการทานอาหาร เช้ากินเยอะ เย็นไม่กิน ไม่อ้วนจริงหรือไม่ ไปอ่านพร้อมๆ กันได้เลย!
1. คนส่วนมากทานอาหารเช้าเยอะ แล้วทานเย็นน้อยหรือบางคนอดไปเลยเพราะกลัวอ้วน
2. เหตุผลของคนที่ไม่ทานอาหารเช้าส่วนมากอ้วนเพราะหิวมากจนควบคุมปริมาณอาหารที่ทานตอนเย็นไม่ได้ จึงทำให้อ้วน
3. หลายคนๆ พูดว่า "ข้าวเช้ากินเข้าไปเยอะๆ เลย ยังไงตอนกลางวันเราทำกิจกรรมก็เผาผลาญหมดล่ะ ข้าวเย็นกินเยอะ มันสะสมแล้วก็อ้วน" ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่ว่าจะทานเวลาไหน ตราบใดที่ปริมาณแคลอรี่มากกว่าเผาผลาญ ก็อ้วนอยู่ดี
4. ถ้าเช้าทานเยอะจริงและเย็นไม่ทานเลย แต่คุณเผาผลาญไม่ตรงกับที่ทานไปของเช้านั้นหรือวันนั้น ก็อ้วนอยู่ดี
5. หลายๆ วิจัยแสดงให้เห็นว่าร่างกายเราย่อยและเก็บอาหารที่ทานเหมือนกันไม่ว่าจะเวลาไหน สิ่งที่ตัดสินว่าจะอ้วนหรือไม่คือ ปริมาณที่ทาน ไม่ใช่เวลาที่ทาน
6. ร่างกายเราจะรู้หลักแค่ถ้าทานแคลอรี่เยอะเกินกว่าเผาผลาญก็จะเก็บเลยทำให้อ้วน ถ้าทานน้อยกว่าก็จะผอม
7. ลองคิดดูว่าเวลาคุณมีนัดทานข้าวหรือกินเลี้ยง ส่วนมากจะเป็นตอนเย็น ดังนั้น ถ้าตอนเช้าทานเยอะแล้วเย็นไปทานเยอะอีก จึงทำให้อ้วนได้
8. เราควรควบคุมปริมาณอาหารที่ทานให้ดี เช่นถ้าเช้าทานน้อย เราก็จะมีแคลอรี่ทานเย็นได้ แต่ถ้าเช้าทานเยอะแล้ว เย็นก็จะเหลือแคลอรี่ให้ทานน้อย หรือสามารถทานเช้าพอดีเย็นก็จะเหลือแคลอรี่ให้ทานพอดี
9. ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ทานอาหารเช้าแล้วส่งผลให้เย็นทานจนควบคุมไม่ได้ การไม่ทานอาหารเช้าก็อาจจะไม่เหมาะกับคุณ
10. แต่ถ้าคุณสามารถควบคุมปริมาณอาหารเย็นที่ทานได้ การที่ไม่ทานอาหารเช้าก็อาจจะไม่มีผลกระทบ
ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ยังทิ้งท้ายอีกว่า ไม่ได้บังคับให้ทานเย็นเยอะแต่แค่เสนออีกหนึ่งทางเลือกให้ว่าไม่ต้องอดข้าวเย็นเราก็ไม่อ้วน.
IG มิกกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา : mickey.a.np กับ fit.athletics
Source: http://www.thairath.co.th/content/475755
