วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตห่างไกลริดสีดวง


ชีวิตห่างไกลริดสีดวง


ปัจจุบันนี้โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นง่ายๆ หากไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี โดยเฉพาะโรคที่มาจากเรื่องอาหารการกิน เช่น โรคริดสีดวงทวาร...
เรื่อง.....อณุศรา ทองอุไร


ปัจจุบันนี้โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นง่ายๆ หากไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี โดยเฉพาะโรคที่มาจากเรื่องอาหารการกิน เช่น โรคริดสีดวงทวาร ที่หากรับประทานหนักแต่เนื้อสัตว์ แป้ง และไขมัน แต่บริโภคผักและผลไม้สดน้อย ก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก ถ่ายยาก จนส่งผลให้เป็นโรคดังกล่าวได้

นพ.ณรงค์ จรัสวิโรจน์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประจำโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มาให้ความรู้ในเรื่องนี้ คุณหมอกล่าวว่า เพราะโรคนี้เป็นกันมากขึ้นในเด็กวัยรุ่น ที่พบอายุน้อยสุดในวัยเพียง 13 ปี และในวัย 40 ปี เริ่มเป็นมากขึ้นในกลุ่มหญิง-ชาย ถ้าอายุ 40 ปีขึ้นไปควรไปตรวจลำไส้ใหญ่ตอนปลายเพื่อตรวจหาริดสีดวงทวาร หรือมะเร็งลำไส้ หรือมะเร็งทวารหนัก ป้องกันไว้ดีกว่าแก้

สาเหตุของโรค

โรคริดสีดวงทวารหนัก เป็นโรคที่มีสิ่งผิดปกติยื่นออกมาจากร่างกาย ส่วนที่ยื่นออกมานั้นมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อ และตำแหน่งที่เกิดคือบริเวณทวารหนักที่เป็นทางขับถ่าย ติ่งเนื้อที่ผิดปกตินี้เกิดจากการบวมและอักเสบของหลอดเลือดดำที่ผนังลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุด หากเกิดกับเส้นเลือดดำที่ใต้ผิวหนังบริเวณปากทวารหนักอาจจะมองเห็นได้จาก ภายนอกเรียกว่า “ริดสีดวงภายนอก” แต่ถ้าเกิดกับเส้นเลือดดำที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในของลำไส้ใหญ่ส่วนปลายเรียกว่า “ริดสีดวงภายใน”


สาเหตุของริดสีดวงส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมในการขับถ่ายอุจจาระที่ต้องเบ่งถ่ายอุจจาระบ่อยๆ และนานๆ ซึ่งเกิดจากอาการท้องผูก การชอบอ่านหนังสือในขณะขับถ่าย การยืนหรือนั่งท่าใดท่าหนึ่งติดต่อกันนานๆ การกลั้นอุจจาระ เป็นต้น

การเบ่งถ่ายอุจจาระนานๆ ทำให้แรงดันในช่วงท้องเพิ่มขึ้น หลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักจึงเกิดการยืด โป่งพองขึ้นเป็นติ่งเนื้อ ความหนาของผนังเส้นเลือดดำจะน้อยลง เมื่อเกิดการเสียดสีกับอุจจาระที่หยาบและแข็งจะทำให้หลอดเลือดดำเกิดปริแตกหรือฉีกขาดได้ จึงเห็นเป็นเลือดสดๆ ออกมาจากทวารหนัก นอกจากนี้การร่วมเพศทางทวารหนัก ท้องผูกเรื้อรัง อาการท้องเสียเรื้อรัง ชอบใช้ยาระบายหรือยาสวนทวารอย่างพร่ำเพรื่อ ก็เป็นส่วนที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนักได้

อาการของโรค

คือเวลาถ่ายอุจจาระจะเจ็บปวดรอบทวารหนัก มีก้อนเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนัก รอบทวารหนักจะเปียกแฉะและคัน หลังการถ่ายอุจจาระจะมีเลือดสดๆ ออกมาทางทวารหนัก หากคลำดูบริเวณรอบๆ ทวารหนักจะรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อนูนหรือเป็นติ่งยื่นออกมา

ระยะของโรค

1.ระยะเริ่มแรกที่ติ่งเนื้อยังอยู่ภายในทวารหนักจะไม่ค่อยเจ็บ แต่อาจจะมีเลือดออกเป็นบางครั้งเมื่อเบ่งถ่าย
2.ระยะที่ติ่งเนื้อเริ่มโผล่ออกมาขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ และจะหดตัวกลับเข้าไปภายในทวารหนักได้เอง
3.ระยะที่ติ่งเนื้อโผล่ออกมาขณะเบ่งถ่าย แต่ไม่สามารถหดกลับเข้าไปได้เอง ต้องใช้มือดันกลับเข้าไปในทวารหนัก
4.ระยะที่ติ่งเนื้อยื่นออกมาและใหญ่จนไม่สามารถกลับเข้าไปเองได้ ถึงแม้จะใช้มือช่วยดันแล้วก็ตาม

การรักษา

โรคริดสีดวงทวารหนัก ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค ริดสีดวงในระยะที่ 1 หากมีการดูแลรักษาปฏิบัติตามคำแนะนำอาการเจ็บปวดและเลือดออกก็จะทุเลาและหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นริดสีดวงระยะที่ 2 และ 3 จะใช้วิธีรักษาโดยการปฏิบัติตามคำแนะนำควบคู่ไปกับการใช้ยา สำหรับริดสีดวงในระยะที่ 4 (รุนแรง) มีเลือดไหลอยู่เรื่อยๆ ต้องรักษาโดยการผ่าตัด

การรักษาโดยการใช้ยา ยาเหน็บทางทวารหนักเป็นยาใช้ภายนอก ประกอบด้วย ยาบรรเทาอาการปวด (ยาชา) ยาช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ยาปฏิชีวนะและยาลดการอักเสบ ยาโรคริดสีดวงมีทั้งชนิดขี้ผึ้งและชนิดแท่ง ใช้เหน็บวันละครั้ง

การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันและรักษาโรค

1.เลือกกินอาหารที่มีเส้นใยสูงเช่น ธัญพืช ผัก-ผลไม้ต่างๆ เพื่อช่วยให้ถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น
2.ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้วเป็นอย่างน้อยทุกวัน
3.อย่าปล่อยให้เกิดอาการท้องผูก การเบ่งอุจจาระจะเป็นการเพิ่มอาการริดสีดวงให้มากขึ้น
4.อย่าฝืนเบ่งอุจจาระโดยที่ไม่รู้สึกปวดถ่าย
5.อย่าทำให้เกิดการระคายเคืองต่ออาการริดสีดวงโดยการถูรอบๆ ทวารหนักอย่างรุนแรง
6.การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น
7.นั่งแช่ในน้ำอุ่น 10-15 นาที เพื่อลดอาการปวดริดสีดวงและการอักเสบ หากปวดมากให้กินยาแก้ปวด-อักเสบ
8.ใช้ยาเหน็บวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอนจะช่วยให้อาการริดสีดวงดีขึ้น
9.กินยาช่วยลดอาการคั่งของเลือด
10.ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ให้ปรึกษาแพทย์


ที่มา: http://bit.ly/kiPi7R
10 พฤษภาคม 2554 เวลา 13:16 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น