กินเจอย่างไรให้ปลอดภัย
Tue, 23/09/2014 - 10:01
เทศกาลกินเจในแต่ละปี
จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 แต่สำหรับปีนี้ความพิเศษอยู่ตรงที่
มีเดือน 9 ถึง 2 ครั้ง จึงแบ่งการกินเจ
ออกเป็น 2 ช่วง คือ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.-2
ต.ค. และ 24 ต.ค.-1 พ.ย.
ทำให้ประชาชนบางส่วนเลือกที่จะกินเจเฉพาะวันที่สะดวกเท่านั้น
แต่สำหรับบางคนก็เลือกที่จะกินเจตลอดเทศกาล ไม่ว่าจะกินเจบางวันหรือตลอดเทศกาล
สิ่งที่ผู้บริโภคควรทราบก็คือ กินเจอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพมากที่สุด
แม้กรมการค้าภายในระบุว่าถึงการสำรวจราคาสินค้า
และวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหารในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ว่า ภาพรวมราคาสินค้า ทั้ง
ผักสด และ อาหารเจ มีเพียงบางรายการที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นเท่านั้น
แต่พ่อค้าแม่ค้าบางส่วนก็ยังคงเลือกจำหน่ายสินค้าในราคาเดิมแม้ว่าต้นทุนจะแตกต่างจากการขายเนื้อสัตว์อย่างเดิม
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำว่า
หากไม่มีเวลาที่จะเลือกวัตถุดิบเองทุกขึ้นตอน
ควรเลือกร้านอาหารที่สะอาดถูกสุขลักษณะ เช่น เลือกร้านที่ภาชนะสะอาด ปิดมิดชิด
และปรุงสุกอยู่เสมอรวมถึงแนะนำสูตรการกินเจโดยใช้หลักการง่ายๆ คือ แบ่งจานอาหารออกเป็น
3 ส่วน คือ 1/4 ของจานควรเป็นกลุ่มข้าวแป้ง
อีก 1/4 เป็นโปรตีนจากถั่ว และเห็ด และครึ่งจานจากทั้งหมด
ควรเป็นผักที่มีหลากหลายสี เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน
ผักถือเป็นวัตถุดิบสำคัญของเทศกาลกินเจ ดังนั้น วิธีการล้างผักที่ถูกต้องคือ ให้น้ำไหลผ่าน 5 นาที สารเคมีจะจางลงร้อยละ 50 หรือใช้วิธีแช่ในน้ำสะอาด 15 นาที แต่หากมีน้ำส้มสายชู ให้ผสมน้ำ 4 ลิตร แล้วจึงแช่ผักไว้นาน 10 นาที ก็จะช่วยชะล้างสารเคมีออกได้
ผักถือเป็นวัตถุดิบสำคัญของเทศกาลกินเจ ดังนั้น วิธีการล้างผักที่ถูกต้องคือ ให้น้ำไหลผ่าน 5 นาที สารเคมีจะจางลงร้อยละ 50 หรือใช้วิธีแช่ในน้ำสะอาด 15 นาที แต่หากมีน้ำส้มสายชู ให้ผสมน้ำ 4 ลิตร แล้วจึงแช่ผักไว้นาน 10 นาที ก็จะช่วยชะล้างสารเคมีออกได้
นอกจากอาหารสดที่ต้องพิถีพิถันในขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบแล้ว
การเลือกอาหารกึ่งสำเร็จรูป ก็ควรคำถึงปริมาณไขมันข้างฉลาก ที่ไม่ควรเกินร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมด เช่นพลังงานทั้งหมด 100 กิโลแคลอรี่
ไขมันก็ไม่ควรเกิน 50 กิโลแคลอรี่
เพราะอาจเป็นสาเหตุของโรคอ้วน ไขมันอิ่มตัว และโรคหัวใจหลอดเลือดได้ อีกทั้งต้องระวังเรื่องปริมาณโซเดียม ที่เป็นองค์ประกอบของผงชูรส
เพราะหากได้รับเกินกว่า 2,400 มิลลิกรัม
หรือเท่ากับซีอิ๊วประมาณ 1 ช้อนครึ่ง
ต่อวันจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง
http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น