วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เส้นเซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมาทะเล Stir-Fried Spicy Shanghai Noodle with Seafood

เส้นเซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมาทะเล Stir-Fried Spicy Shanghai Noodle with Seafood ผัดขี้เมานอกจากจะผัดแบบเป็นกับข้าวแล้ว เอาไปผัดกับเส้นต่างๆ ทำเป็นอาหารจานเดียวก็อร่อยไม่เบา วันนี้จะลองนำเส้นเซี่ยงไฮ้มาทำดูบ้างนับว่าอร่อยเหนียวนุ่มหนุบหนับดีไม่เบา ลองทำกันดูนะครับแล้วจะติดใจ 

http://www.foodtravel.tv/recfoodShow_Detail.aspx?viewId=2694

http://www.youtube.com/watch?v=anO984DlWZw

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รักสุดฤทธิ์ พิชิตมังกร

>>เพิ่งรู้ว่าแถวบ้านมีร้านขายบะหมี่แบบนี้ด้วย ชามละ 500 บะหมี่ก้อนนึง ลอบสเตอร์ตัว ปูจ๋าตัว หอยแมงภู่3 ไข่ฟอง ซุปยำกุ้ง

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผักสวนครัว 10 ชนิดที่ควรปลูกไว้ในบ้าน



มังคุด ผลไม้ที่อร่อย แถมยังได้ประโยชน์ ถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้

มังคุด ผลไม้ที่อร่อย แถมยังได้ประโยชน์ ถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้

ประโยชน์ของมังคุด
1. ช่วยลดความดันโลหิต
2. ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ 
3. ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่างๆรวมถึงการตายของเซลล์มะเร็ง
4. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อวัณโรค, เชื้อ S. Enteritidis และเชื้อ HIV
5. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
6. ช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย
7. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
8. ช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองได้ดี
9. ช่วยขยายตัวของหลอดเลือด
10. ช่วยต้านอาการเมื่อยล้า (เพิ่มพลังอาหาร)
11. ช่วยป้องกันการระคายเคือง อักเสบ
12. ช่วยลดการเจ็บปวด
13. ช่วยต้านการเกิดแผลในปาก
14. ช่วยระงับอาการกดประสาท (ลดความเครียด)
15. ช่วยลดอาการกังวล
16. ช่วยลดภาวะสมองเสี่อม ช่วยป้องกันความผิดปกติของสมอง
17. ช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง
18. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
19. ช่วยต้านการขับไขมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังมากเกินไป (ต้านการทำงานของผิวหนังผิดปกติ)
20. ลดไขมันที่ไม่ดีในเส้นเลือด
21. ช่วยป้องกันเส้นเลือดแดงแข็งตัว
22. ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
23. ช่วยป้องกันอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ
24. ช่วยป้องกันโรคอ้วน (ช่วยลดน้ำหนัก)
25. ช่วยป้องกันโรคข้อเสื่อม
26. ช่วยป้องกันโรคกระดูกผุ
27. ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในไต
28. ช่วยป้องกันอาการไข้ (ไข้ระดับต่ำ)
29. ช่วยป้องกันโรคพาร์กินสัน (โรคเกี่ยวกับระบบประสาทที่ทำให้สั่น)
30. ช่วยป้องกันอาการท้องร่วง
31. ช่วยป้องกันอาการปวดในระบบประสาท
32. ช่วยป้องกันอาการเวียนศรีษะ
33. ช่วยป้องกันโรคตัวหิน (โรคตาที่เกิดจากความดันสูงในกระบอกตาและทำให้ตาบอดในที่สุด)
34. ช่วยป้องกันอาการตามัว (เกิดความผิดปกติที่เลนส์ในดวงตา)
35. ช่วยป้องกันโรคเหงือก
36. ช่วยต่อต้านโรคซึมเศร้า


cr.pages: HappyPhoneMBK

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ดีท็อกซ์และถ่ายพยาธิด้วย "ทุเรียน"



ดีท็อกซ์และถ่ายพยาธิด้วย "ทุเรียน"

ทุเรียน กินอย่างไรไม่อ้วน เผยช่วยชำระล้างขยะในลำไส้ แถมเป็นยาถ่ายพยาธิชั้นยอด คงสงสัยกันสิว่า กินกันอย่างไรล่ะที่ไม่ให้อ้วน 

ตำราไทยบอกไว้ให้กินเป็นยาถ่ายพยาธิปฏิบัติไม่ยากเลย ง่ายๆ เพียงแค่ตื่นนอนตอนเช้าๆ ยามรุ่งอรุณ ก็ราวๆ ประมาณ 05.00 น. หลังจากล้างหน้า แปรงฟัน เรียบร้อย เริ่มกินทุเรียนได้ทันที กินพอประมาณ อาจสักครึ่งลูกย่อมๆ หรืออาจมากน้อยกว่านั้น ตามน้ำหนัก หรือความอ้วน ความผอม คือ อ้วนก็มากหน่อย ผอมก็น้อยลง ไม่ใช่กินเพื่ออิ่มแต่กินเป็นยา แล้วดื่มน้ำอุ่นตามไปมากๆควรกินสองวันติดต่อกันและงดอาหารในทั้งสองเช้านั้น ความร้อนในสารกำมะถันธรรมชาติ และกากใย จากพูทุเรียน จะออกฤทธิ์ชำระล้างขยะในลำไส้ออกได้อย่างเกลี้ยงเกลา รวมทั้งเป็นยาถ่ายพยาธิต่างๆ อีกทั้งยังเป็นยาถ่ายในผู้ป่วยน้ำเหลืองเสีย ซึ่งมักเกิดแผลจากแมลงกัดอยู่เสมอ

ทุเรียน ให้ประโยชน์คณานับที่แพทย์แผนไทย มีอาทิเนื้อสีเหลือง รสหวานร้อน ทำให้เกิดความร้อน แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี หนอง แห้ง เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิเปลือกหนาม รสเฝื่อน สับแช่ในน้ำปูนใสใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง เผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูม และเผาเอาควันไล่ยุงและแมลงใบทุเรียน รสเย็นและเฝื่อน ใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิรากจากต้น ตัดเป็นข้อๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วงนอกจากทุเรียนจะให้คุณอเนกอนันต์  (
ขอขอบคุณข้อมุลจาก : heyhaparty)

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ลอดช่องสิงคโปร์






ลูกเนียง

ราคาลูกเนียงอ่อนที่ตลาดสังขละบุรี กิโลกรัมละ 40 บาท 02 05 2014 (cr.จิราพร บุญรอด)

"ชะลอวัย เปลี่ยนชีวิต"


เมื่อพูดถึงการรักษาทางเวชศาสตร์ชะลอวัย คนไข้มักคาดหวังและนึกถึงผลลัพธ์ที่ทำให้อ่อนเยาว์ลง แก่ช้าลง ผิวพรรณผุดผ่อง เต่งตึง และไม่เหี่ยวย่น แต่ในความเป็นจริง หมอคาดหวังมากกว่านั้น
วันอาทิตย์ 27 เมษายน 2557 เวลา 00:00 น.
 เมื่อพูดถึงการรักษาทางเวชศาสตร์ชะลอวัย คนไข้มักคาดหวังและนึกถึงผลลัพธ์ที่ทำให้อ่อนเยาว์ลง แก่ช้าลง ผิวพรรณผุดผ่อง เต่งตึง และไม่เหี่ยวย่น แต่ในความเป็นจริง หมอคาดหวังมากกว่านั้น “เนื่องจากทฤษฎีแห่งความแก่และเสื่อมนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ทุกอวัยวะ ทุกระบบของร่างกาย ไม่ใช่แค่ผิวหนัง”
ร่างกายคนเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในแต่ละวัน ด้วยการควบคุมของสารคัดหลั่งที่เรียกว่า “ฮอร์โมน” แต่น่าเสียดายที่ฮอร์โมนจะเริ่มลดลงเมื่อเข้าสู่อายุ 35 ปี และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เราอาจไม่เคยสังเกตว่ามันเป็นอาการของความแก่ ได้แก่ เมื่อยังเยาว์ วิ่งเล่นซนจนเหนื่อย พอตกดึกก็ง่วง หลับสบายจนถึงเช้า แต่เมื่ออายุมากขึ้น กลับไม่เป็นเช่นนั้น แม้จะเหนื่อยเครียดอย่างไร กลางคืนกลับนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทถึงเช้า หรือที่เห็นได้ชัดคือความเหี่ยวย่นของผิวหนัง ผมแห้ง คันตามตัว ตัวบวมอืด อ้วนง่ายและลดน้ำหนักยากเหลือเกินทั้งที่ลดอาหารแล้ว อารมณ์เสียง่าย ความอดทนต่ำ หดหู่ หรือแม้กระทั่งความต้องการทางเพศลดลง นกเขาไม่ขันเหมือนเดิม
ในการใช้ชีวิตหนึ่งวัน เราใช้เวลากว่า 80% อยู่นอกบ้านซึ่งต้องเผชิญกับการงานที่เครียด มลพิษ อาหารที่ไม่มีประโยชน์ ควันบุหรี่ ร่างกายที่ทรุดโทรมจากการนอนหลับไม่เพียงพอ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นเหมือนคมหอกคมดาบที่ทิ่มแทงเราทุกวัน เรามีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า “สารอนุมูลอิสระ” ร่างกายของคนเรามีโอกาสได้รับสารอนุมูลอิสระทุกวัน ซึ่งเมื่อเข้ามาในร่างกาย มันจะไม่อยู่อย่างโดดเดี่ยว จะยึดกับเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายและก่อให้เกิดความเสื่อม อันที่จริงในร่างกายคนเราก็มีสารต้านอนุมูลอิสระไว้คอยจัดการกับเจ้าสารอนุมูลอิสระเหล่านี้ แต่ที่น่าเสียดายคือ สารต้านอนุมูลอิสระก็ลดลงเมื่ออายุเรามากขึ้นเช่นกัน เราทุกคนจึงพบการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่แย่ลงเมื่ออายุมากขึ้น ในขณะที่ทั้งฮอร์โมนและสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในขาลง
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แทรกซึมมาในชีวิตประจำวันจนบางคนไม่ทันสังเกตว่า มันเป็นสัญญาณของความเสื่อม และแก้ไขด้วยตนเองอย่างง่าย ๆ เช่น ตื่นนอนแล้วปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดไหล่ ก็สงสัยนอนตกหมอน ไปนวดก็น่าจะดีขึ้น ปรากฏว่าอาการยังเป็นอยู่ทุกวันเป็นเดือน ๆ ทั้งที่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร หรือ ไปเลี้ยงรุ่นทีไร มักถูกทักว่าแก่ มีริ้วรอยกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันเสมอ อ่อนเพลียง่าย หงุดหงิดง่าย ก็หนีไปสปา ทำทรีตเมนท์ แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น
แต่บางคนก็โชคร้ายที่อาการมันรุนแรงเสียจนไม่สามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุข หมอขออนุญาตยกตัวอย่าง คนไข้ท่านหนึ่งซึ่งมาขอพบด้วยปัญหาปวดศีรษะเรื้อรัง ตื่นมาทุกเช้าจะปวดบ่า ไหล่ และหลังส่วนบนอย่างมาก จนต้องไปพึ่งหมอนวดแผนโบราณเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยหาย น้ำหนักตัวพุ่งพรวดทั้งที่ไม่ได้ทานมากผิดปกติเลย และควบคุมอาหารแล้วก็ไม่ลดลง เวลาเดินขึ้นลงบันไดจะรู้สึกอ่อนแรงง่าย ทุกเช้าที่ต้องตื่นมาทำงานจะไม่รู้สึกสดชื่น ไม่มีใจจะค้าขาย ไม่มีเรี่ยวแรง ทั้งที่เป็นผู้รับผิดชอบกิจการทั้งหมดเพียงผู้เดียวและต้องหาเลี้ยงสมาชิกทั้งครอบครัว ตกดึกแม้จะเหนื่อยอย่างไรก็หลับไม่สนิท แถมยังหลง ๆ ลืม ๆ ด้วย เหตุผลที่ต้องมาปรึกษาแพทย์เพราะได้พยายามไปตรวจหาสาเหตุเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ไม่พบความผิดปกติใด ๆ (ทั้งการตรวจเลือด ตรวจเอกซเรย์ ตรวจเอกซเรย์สมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) แต่หากยังคงมีอาการเช่นนี้ต่อไป จะทำให้ไม่สามารถทำงานได้ ส่งผลให้เกิดความลำบากแก่ครอบครัวแน่ ๆ 
เมื่อทราบปัญหา หมอจึงขออนุญาตสอบถามประวัติอย่างละเอียด เพื่อประเมินว่าคนไข้กำลังเผชิญข้าศึกอะไรบ้าง ทั้งการพักผ่อน ความเครียด โรคประจำตัว ยาที่รับประทาน ประวัติการผ่าตัด การใช้ชีวิต อาหารการกิน และการออกกำลังกาย จากนั้นจึงทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และประเมินผลเอกซเรย์และผลเลือดทั้งหมดที่เคยตรวจ ซึ่งล้วนไม่พบความผิดปกติทางอายุรกรรม จึงได้ตรวจเลือดเพื่อประเมินภาวะเสื่อมของร่างกาย ทั้งระดับฮอร์โมน สารต้านอนุมูลอิสระ สารบ่งอักเสบ และสารบ่งชี้มะเร็ง ซึ่งเป็นการตรวจพิเศษในศาสตร์แห่งชะลอวัย และจะขอกล่าวถึงผลการตรวจในตอนต่อไป
ข้อมูลจาก แพทย์หญิงธิศรา วีรสมัย  สูตินรีแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (American Board of Anti-aging Medicine) โรงพยาบาลพญาไท 1/http://www.phyathai.com
นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์
ชะลอวัย เปลี่ยนชีวิต ตอน 2
การรักษาเริ่มขึ้นด้วยการอธิบายผลตรวจทั้งหมดอย่างละเอียด ซึ่งก็สร้างความประหลาดใจแก่คนไข้ที่ผลเลือดอธิบายอาการดังกล่าวได้ทั้งหมด
วันอาทิตย์ 4 พฤษภาคม 2557 เวลา 00:00 น.

หลังจากได้ตรวจหาความเสื่อมในคนไข้ท่านนี้แล้ว ในวันนี้เราจะมาวิเคราะห์ผลกัน : ผลการตรวจ พบความไม่สมดุลของฮอร์โมนในระดับที่รบกวนการเผาผลาญของร่างกาย ระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อผิดปกติจากสารอนุมูลอิสระที่ได้รับสะสมมาโดยตลอด จากการซักประวัติอย่างละเอียดทำให้ทราบว่า คนไข้มีความเครียดจากภาระรับผิดชอบมาก ไม่ได้ออกกำลังกาย นอนดึกมากกว่าจะตรวจสินค้าในร้านเสร็จ และต้องตื่นแต่เช้า ขณะที่ต้องซื้ออาหารง่าย ๆ ทาน ทั้งของทอด ของมัน และยังชอบทานรสหวานมาก ซึ่งล้วนเป็นต้นตอแห่งสารอนุมูลอิสระทั้งสิ้น
การรักษาเริ่มขึ้นด้วยการอธิบายผลตรวจทั้งหมดอย่างละเอียด ซึ่งก็สร้างความประหลาดใจแก่คนไข้ที่ผลเลือดอธิบายอาการดังกล่าวได้ทั้งหมด ทำให้เกิดการรวมพลังกันระหว่างหมอและคนไข้ใน การช่วยกันปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ทั้งอาหาร การนอน การออกกำลังกาย และระบบความคิด การปรับเปลี่ยนเริ่มขึ้นด้วยทีมโภชนาการ นักกายภาพ บำบัดและวิทยาศาสตร์การกีฬา ทำหน้าที่แปลงข้อสรุปของคุณหมอให้เป็นแนวทางการปฏิบัติที่ใช้ได้ในชีวิตจริงสำหรับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนไข้ท่านนี้ เรียกว่า “Personalized design” ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและยังคงค้าขาย ดูแลทุกคนในบ้านได้อย่างดีเหมือนเดิม ที่ขาดไม่ได้คือ การให้ฮอร์โมน สารอาหารและวิตามินอันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ผลิตมาเฉพาะ
ปัญหาของคนไข้ เรียกว่า “Personalized Hormone & Supplements” ชนิดและขนาดที่ผลิตจึงเป็นขนาดเฉพาะสำหรับคนไข้ท่านนี้ และปลอดภัยเนื่องจากพิจารณาตามปัญหาที่ตรวจเลือดพบ และจะมีการตรวจติดตามเป็นระยะจนเมื่อผลเลือดอยู่ในระดับปกติ และคนไข้สามารถปรับรูปแบบการใช้ชีวิตจนลดการเกิดสารอนุมูลอิสระ จะเริ่มพิจารณาลดและหยุด Hormone & Supplements
หลังการรักษา คนไข้มีอาการดีขึ้นตั้งแต่เดือนแรก คำบอกเล่าของคนไข้ที่พบว่าอาการทั้งหมดลดลง อาการปวดศีรษะ ปวดบ่าไหล่หายไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นอนหลับได้สนิท ตื่นมาอย่างสดชื่นและพร้อมจะไปทำงานโดยไม่รู้สึกเพลียหรือเหนื่อย แถมอารมณ์ก็ไม่หงุดหงิดเหมือนเดิม ล้วนทำให้หมอรู้สึกดีใจและเต็มอิ่มไปด้วยความสุข เพราะการรักษาไม่เพียงทำให้อาการหาย แต่นั่นหมายถึงคุณภาพชีวิต การนำชีวิตใหม่มาให้ผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้เพื่อเลี้ยงดูทุกคนในครอบครัว การนำความมั่นคงกลับมาให้ครอบครัวนี้อีกครั้ง อีกทั้งนำมาซึ่งมิตรภาพดี ๆ ที่ยังมีให้กันอยู่ตลอด แม้คนไข้จะหายดีแล้ว
ปัญหาความเสื่อมเกิดกับผู้ชายเช่นกัน แต่อาจพบได้ในรูปแบบที่เหมือนหรือแตกต่างก็ได้ ปัญหาใหญ่หลวงที่ต้องรีบแก้ไขกลับเป็นสิ่งที่ไม่กล้าเล่าหรือมาปรึกษาแพทย์จนกระทั่งสถาบันครอบครัวเริ่มสั่นคลอน หรือลูกหลานไม่อยากคุยด้วย จึงต้องรีบมาพบแพทย์ คนไข้มักมีปัญหาเบื่อหน่าย ขาดความกระตือรือร้น นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ท้องผูก ผมร่วงผิดปกติ ขาดความมั่นใจ หลง ๆ ลืม ๆ อารมณ์แปรปรวน บางครั้ง      ซึมเศร้า บางครั้งหงุดหงิด บ่น โวยวาย จนลูก ๆ หนี ความต้องการทางเพศลดลง และปัญหาลับ ๆ ที่ไม่อยากบอกใคร คือ นกเขาไม่ขันเหมือนเดิม
การซักประวัติเป็นด่านแรกที่สำคัญ   มาก ๆ เพื่อรู้จักข้าศึกก่อนรบ เพราะเมื่อรบชนะ จะได้รู้วิธีป้องกันข้าศึกครั้งต่อไปได้ การตรวจร่างกายอย่างละเอียดและการเจาะเลือด เพื่อตรวจแยกโรคทางอายุรกรรมที่สงสัย และตรวจหาความเสื่อมที่เกิดขึ้น ผลตรวจไม่พบปัญหาทางอายุรกรรม แต่พบการลดลงของสารต้านอนุมูลอิสระ ฮอร์โมนหลายตัวรวมทั้งฮอร์โมนเพศชายด้วย การรักษาเริ่มจากการอธิบายผล ที่มาที่ไปของปัญหา ซึ่งทำให้คนไข้มุ่งมั่นจะแก้ปัญหาไปกับหมอด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต การรับประทานฮอร์โมนและสารอาหารและวิตามินที่ผลิตมาเฉพาะบุคคล ตลอดจนการลดนํ้าหนักตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากคนไข้เป็นชายรูปร่างอ้วน การตรวจฮอร์โมนพบว่าถ้ายังคงมีนํ้าหนักมากเช่นนี้ ก็จะยิ่งเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมน และก่อปัญหาเรื่องฮอร์โมนเพศไปเรื่อย ๆ ก่อนการรักษาคนไข้ได้รับการตรวจเพื่อประเมินองค์ประกอบของร่างกายด้วยเครื่อง Inbody และพบปริมาณนํ้าหนักและไขมันที่เกิน หมอจึงกำหนดนํ้าหนักเป้าหมายไว้
หมอวางแผนการรักษาควบคู่ไปกับการลดนํ้าหนักอย่างถูกต้องไปสู่นํ้าหนักเป้าหมาย แต่เนื่องจากคนไข้ทำธุรกิจและไม่มีเวลา จึงได้จัดระบบการออกกำลังกายเป็นเฉพาะบุคคล เรียกว่า “Personalized exercise program” ด้วยเครื่องออกกำลังกายที่ช่วยให้ได้ออกกำลังกายแบบ Aerobic exercise & Weight training ซึ่งใช้เวลาในการออกกำลังกายครั้งละ 20 นาที แต่จะมีการเผาผลาญเช่นเดียวกับการออกกำลังกายนาน ๆ และยังได้เสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย ทีมนักวิทยาศาสตร์การกีฬาจะวางแผนการ  ใช้เครื่องในแต่ละครั้งให้เหมาะกับปัญหา  เรื่องรูปร่าง และฮอร์โมนของคนไข้ จนทำให้คนไข้ท่านนี้ลดนํ้าหนักได้ 8 กิโลกรัมใน    เวลา 2 เดือน มีสุขภาพที่แข็งแรง ฟิตขึ้น ปัญหาทางอารมณ์และอ่อนล้าหายไป และกลับมามีกิจกรรมกุ๊กกิ๊กกับภรรยาได้ดีเหมือนเดิม ในที่สุดความมั่นใจที่หายไปเสียนานก็กลับมาแล้ว
การดูแลคนไข้ทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยทำให้หมอรู้สึกรักอาชีพนี้มากขึ้น เพราะไม่เพียงได้รักษาคนไข้จนหาย ยังสามารถช่วยให้เขาเหล่านั้นปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตไปในทิศทางที่ดีต่อสุขภาพกายและใจ ในทางที่ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และความแก่ของร่างกายจนปรากฏให้เห็นผิวพรรณที่ผ่องเปล่งปลั่ง รูปร่างที่กระชับ กล้ามเนื้อที่แข็งแรง อารมณ์ที่แจ่มใส และสติปัญญาที่ฉับไว จนอยากจะเรียกว่า “ชะลอวัย เปลี่ยนชีวิต” จริง ๆ
ข้อมูลจาก แพทย์หญิงธิศรา วีรสมัย  สูตินรีแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (American Board of Anti-aging Medicine) โรงพยาบาลพญาไท 1 / http://www.phyathai.com
นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์