วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิธีเก็บทุเรียนที่ทานไม่หมด


แนะนำวิธีการเก็บรักษาทุเรียนที่ทานไม่หมดให้เก็บไว้ทานได้นาน โดยที่สภาพเนื้อและรสชาติไม่เปลี่ยน แถมกลิ่นไม่รบกวน

'ทุเรียน' ผลไม้ขึ้นชื่อของไทยชนิดหนึ่ง นอกจากมีกลิ่นแรงแล้วยังเป็นผลไม้ที่ทานไม่ได้มากนักในคราวเดียว ทำให้ยากลำบากต่อการเก็บไว้ทานครั้งหน้า วันนี้จึงขอแนะนำวิธีเก็บรักษาทุเรียนที่ทานไม่หมดให้เก็บไว้ทานได้นานมาฝาก

วิธีแรกให้ผ่าครึ่ง เลือกครึ่งที่คิดว่ากินไม่หมด ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ทั้งเปลือก โดยไม่ต้องแกะเนื้อออก แล้วนำไปใส่ถุงพลาสติกอีกชั้น ก่อนนำไปแช่ตู้เย็น เพื่อป้องกันกลิ่นทุเรียนไปรบกวนอาหารอื่นในช่องความเย็นปกติ วิธีนี้จะทำให้รสชาติและสภาพเนื้อของทุเรียนไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก จะเก็บไว้ได้นานสูงสุดถึง 1 เดือน

ส่วนทุเรียนที่แกะออกจากเปลือกแล้ว เมื่อทานไม่หมดให้ห่อด้วยกระดาษทิชชู่เพื่อซับเนื้อทุเรียนให้แห้งตลอดเวลา ช่วงแรก ๆ อาจต้องเปลี่ยนกระดาษทุกวันไปก่อน แต่เมื่อเนื้อทุเรียนเริ่มแห้งแล้วสองสามวันค่อยเปลี่ยนครั้งก็ได้ วิธีนี้นอกจากจะทำให้เก็บไว้ได้นานแล้ว รสชาติทุเรียนก็จะไม่เปลี่ยนเช่นกัน หากคอยดูไม่ให้ได้รับความชื้นแล้ว ก็สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน

แต่ถ้ากลัวเปลืองกระดาษทิชชู่ ให้ใช้กระดาษโรเนียว (ที่ยังไม่ได้ใช้งาน) หรือกระดาษเช็ดมือแบบม้วนซับน้ำอเนกประสงค์แผ่นใหญ่ประมาณ 2-3 แผ่น วางรองไว้ที่ก้นกล่องพลาสติกที่จะไว้ใช้เก็บเนื้อทุเรียน แล้วห่อทุเรียนแต่ละเม็ดด้วยพลาสติกใสสำหรับห่ออาหาร แล้ววางเรียงลงในกล่อง ก่อนวางเรียงซ้อนทุกชั้น ให้ใช้กระดาษโรเนียววางรองก่อน ทำแบบนี้ทุกชั้นไป ป้องกันการกดทับ และเมื่อวางเรียงหมดแล้ว ให้ปิดทับด้วยกระดาษโรเนียวอีกครั้งหนึ่งก่อนปิดฝา กระดาษจะกั้นไม่ให้น้ำจากฝาพลาสติกหยดลงใส่ทุเรียน ก่อนนำเข้าตู้เย็น เมื่อเก็บให้ห่างจากความชื้นได้เช่นนี้แล้ว ก็สามารถเก็บทุเรียนไว้รับประทานได้นานโดยไม่เน่าเสีย.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


ที่มา: http://variety.teenee.com/foodforbrain/36319.html

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554



กระท้อนออกมาท่วมท้นตลาด.........วันนี้จะสอนสูตร...กระท้อนลอยแก้ว....ไม่เคยบอกใครมาก่อนปร้าเคยทำ....14 กก. ไม่พอคนทาน..(ไม่รุ้มันจะกินอะไรกันนักกกกกก )

****ลักษณะการเลือกตอนซื้อ....ต้องเนื้อแข็ง...จึงจะทำดีไม่น่วมเละ...ออกเปรี้ยวอมหวานฉ่ำใจเวลาทาน.....นะคร้า.....(คราวนี้เริ่มทำ...5...ลูกเลือกขนาดย่อมๆไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป)

*****เริ่มต้น.....นำเกลือ....ละลายเตรียมน้ำเกลือไว้ประมาณ 3 อ่าง อ่างสุดท้ายเกลือเข้มข้นที่สุด......

*****......ความสะอาด...จะทำให้กระท้อนยิ่งขาวอมชมพูดูน่ากินยิ่ง....จงนำกระท้อนล้างทั้งเปลือกก่อนปอก....ขจัดเศษฝุ่นผง....ออกให้หมด....นำลงแช่ในนำเกลืออ่างที่1ทันที

*****........ปอกเปลือก...ในน้ำเกลือ.....ยกขึ้นแล้ะจุ่ม....อย่ายกนานผิวจะคล้ำ....ปลอกเปลือกเสร็จ....ลงแช่อ่างที่2

*****จากที่ปลอกเปลือกเสร็จ....เอามีดที่คมที่สุดในครัว....กรีด...คือตามขวาง1ครั้งรอบลูก...ตามยาว1ครั้ง.....แกะเนื้อออกแยกเม็ดใส่ชามไว้......นำเนื้อหั่นเป็นชิ้นบางๆ...หั่นบนมือห้ามใช้เขียง...เพราะเขียงมีฝุ่น....จะพานดำ...หั่นลงกับนิ้วเราระวังมีดบาดด้วย.....(คิดดูปร้าหั่นแบบนี้14กก.)เอาเนื้อสวยๆแช่ลง.....อ่างน้ำเกลือที่3

******.......ตั้งหม้อน้ำเชื่อม.....ใช้หม้อกลาง....ใส่น้ำตาล1ถุงครึ่ง....ไม่จางเกินไปเพราะน้ำกระท้อนจะออกอีก
******เม็ดกระท้อน....เอามีดหั่นเฉพาะปุยขาวๆเท่านั่น.....


******บีบเนื้อกระท้อน....ในอ่างที่3ขึ้นให้เสด็จน้ำเกลือ......ใส่ลงในน้ำเชื่อมขณะเดือดพล่าน.......ตามด้วยปุยกระท้อน......คนให้เนื้อกระจาย.....ไม่ต้องตั้งไฟนานนะคร้า......

*****ยกลง.....นำหม้อร้อนทั้งหม้อ....แช่หล่อเย็นในอ่างน้ำใหญ่ทันที...เพื่อให้เย็นเร็วเนื้อจะได้สวย.....ทำสัก3ครั้ง.....จนกระท้อนในหม้อคลายร้อน........ทิ้งไว้สักพัก.....ถึงชิม

******รสชาติจะเปรี้ยวหวานหอมชื่นใจ......เก็บในตุ้เย็น...ใส่น้ำแข็งทานคลายร้อนนะคร้า....รับรองความอร่อย.....เจ้าปร้าคอนเฟริมมมม.....อาจจะยุ่งยากเล็กน้อยเพราะ....ของไทยๆ....ทำด้วยมือพิถึถิถัน......ความสะอาดจะทำให้เนื้อใส ขาว อมชมพู......อร่อยคร้า


http://www.facebook.com/photo.php?fbid=203778896333227&set=at.107149502662834.3911.100001033533660.1121756154&type=1&theater

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อาหาร 7 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกินไป


อาหาร 7 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกินไป

1. ปาท่องโก๋ ใช้สารส้มเป็นส่วนประกอบในการปรุง ซึ่งมีตะกั่ว เป็นพิษต่อเซลล์สมอง ความจำเสื่อม คอแห้ง เจ็บคอ

2. ไข่เยี่ยวม้า ถ้ากินมากและบ่อย อาจเกิดพิษจากสารตะกั่ว การดูดซึมแคลเซี่ยมลดน้อยลง ขาดแคลเซี่ยมทำให้กระดูกผุได้

3. เนื้อสัตว์ย่าง เกิดสารเบนโซไพริน ก่อมะเร็ง

4. ผักโขม ผักปวยเล้ง มีกรดออกซาเลตมาก ทำให้การขับสังกะสีและแคลเซียมออกจากร่างกายมาก เกิดภาวะขาดแคลน

5. บะหมี่สำเร็จรูป ทำให้ขาดสารอาหาร เกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย

6. เมล็ดทานตะวัน มีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว กินมากทำให้มีการสะสมไขมันที่ตับได้

7. เต้าหู้หมัก เต้าหู้ยี้ การหมักมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค...และมีสารย่อยโปรตีนไฮโดรเจนซัลไฟล์ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

นี่ คืออาหาร 7 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะหากสะสมมากๆ จะส่งผลกระทบต่อร่างกาย หากใครมีพฤติกรรมชอบกินอาหารเหล่านี้ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินเสียใหม่เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวท่านเอง

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=215652871802371&set=a.120736947960631.12588.100000729785375&type=1&theater